โอกาสลงทุนในช่วงเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจของจีน

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1660019236079 1

ช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจประเทศจีนเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และบริษัทเทคโนโลยีในจีนก็ได้รับการสนับสนุนจนเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนกระทั่งเกิดการสะดุดครั้งใหญ่หลังรัฐบาลจีนเริ่มเข้ามากำกับดูแลการทำธุรกิจเพื่อไม่ให้ธุรกิจขนาดใหญ่มีการเอาเปรียบมากเกินไป รวมถึงความกังวลจากการถูกเพิกถอนการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และการล็อกดาวน์กิจกรรมทางเศรษฐกิจจากนโยบาย Zero COVID ล้วนเป็นสิ่งที่กดดันราคาหุ้นจีน รวมถึงการเติบโตของธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นนอกประเทศ ทำให้ราคาหุ้นหลายบริษัทปรับตัวลงจากจุดสูงสุดในช่วงปี 2020 – 2021 กว่า 50% ด้วยเพียงระยะเวลา 1 ปี สวนทางกับการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีอื่นทั่วโลกในตอนนั้น

แต่จุดเปลี่ยนเริ่มต้นหลังจากการประชุมคณะกรรมการกรมการเมือง หรือ ที่เรียกว่า “โบลิตบูโร” ในเดือน เมษายน 2022 ที่มีความเห็นให้สนับสนุนการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน รวมถึงส่งสัญญาณในการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยสนับสนุนการเติบโต นอกจากนี้ หลังการประชุมยังมีเหตุการณ์ที่เป็นพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีจีน ได้แก่ 1. การอนุญาตแอปพลิเคชัน  DiDi ให้กลับมาใช้งานได้ในจีน หลังจากที่เคยถูกแบนไปเกือบปี ส่งผลให้ราคาหุ้น DiDi ปรับตัวขึ้น +24% ภายในวันเดียว และเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา บริษัทได้ย้ายกลับมาจดทะเบียนซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงแทนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) 2. การอนุมัติใบอนุญาตเกมมือถือใหม่ในจีนอีกครั้ง หลังจากที่หยุดไปนานกว่า 9 เดือน และ 3. การกลับมาปัดฝุ่นพิจารณา IPO ของ Ant Group อีกครั้ง หลังจากที่ระงับไปตั้งแต่ ตุลาคม 2020 ซึ่งทั้ง 3 ประเด็น ทำให้หลายคนมองว่า รัฐบาลจีนน่าจะเริ่มผ่อนคลายการตรวจสอบแล้วหรือไม่ ?

ขณะที่ภาพการลงทุนระยะยาว ถ้าเรามาเจาะดูแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติฉบับที่ 14 ที่ครอบคลุมระยะเวลาในช่วงปี 2021 – 2025 ซึ่งแผนยุทธศาสตร์เปรียบเสมือนเข็มทิศของการพัฒนาประเทศจีนในแต่ละช่วงเวลา ทำให้มีแนวโน้มว่าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนและเป็นอีกหนึ่งโอกาสการลงทุนในประเทศจีน

 โดยรายละเอียดของแผนพัฒนาฉบับนี้มุ่งเน้นไปที่ 3 ด้านหลัก ได้แก่ วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม เทคโนโลยีสีเขียวและการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงการกระตุ้นการใช้จ่ายของคนในประเทศเพื่อให้การเติบโตเศรษฐกิจของประเทศจีนเป็นไปอย่างมีคุณภาพ โดยอุตสาหกรรมที่จะได้ประโยชน์จากแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติของจีน ได้แก่ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ รวมถึงอุตสาหกรรมสีเขียวและพลังงานสะอาด ซึ่งตามสถิติการลงทุนในกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนตามแผนพัฒนาฯ ในแต่ละฉบับในอดีตมีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดี (Outperform) เมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม 

แผนภาพที่ 1: Valuation หุ้นเทคโนโลยีจีนลงมาในระดับที่น่าสนใจ

เทียบกับตลาดจีนโดยรวม

1660019350518 1

ที่มา: Bloomberg, TISCO Wealth Advisory data as of 1 August 2022

โดยสรุปคือภาพตลาดหุ้นจีนระยะสั้น แม้จะยังคงเห็นความเสี่ยงจากการกำกับดูแลของรัฐบาลจีน รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์จีนและนโยบาย Zero COVID แต่ภาพระยะยาวจีนยังเป็นประเทศที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้ดี รวมถึงมีนโยบายทางการเงินและการคลังที่ไม่ได้ตึงตัวมากเกินไป ขณะที่นโยบาย Zero COVID มีแนวโน้มผ่อนคลายลง ทำให้ภาพเศรษฐกิจครึ่งปีหลังยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง และยังมีแผนพัฒนาประเทศที่ชัดเจนทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากแผนการพัฒนาประเทศดังกล่าว

นอกจากนี้ ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาสะท้อนข่าวร้ายไปมากจนทำให้ Valuation ลดลงมาในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจีนที่ปรับตัวลงมาเยอะกว่าดัชนี CSI 300 ขณะที่การเติบโตในระยะยาวยังมีภาพการเติบโตที่น่าสนใจ ส่งผลให้การลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีนนั้นนับเป็นอีกหนึ่งธีมการลงทุนที่มีความน่าสนใจสำหรับพอร์ตการลงทุนที่จะเติบโตไปพร้อมกับแผนการเติบโตของจีนที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจที่เน้นการผลิตไปยังระบบเศรษฐกิจใหม่ที่เน้นนวัตกรรมและภาคบริการ

 

==========================

 

เผยแพร่ครั้งแรกที่คอลัมน์ สถานีลงทุน ของประชาชาติ

บทความล่าสุด

แจกทริกตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ปังไม่พังตั้งแต่ต้นปี

เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ หลายคนมักตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการเงิน เช่น การออมเงิน ลดหนี้ หรือเพิ่มรายได้ แต่บ่อยครั้งที่เป้าหมายเหล่านี้มักไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ข้อมูลจาก Forbes พบว่ากว่า 80% ของการตั้งเป้าหมายช่วงปีใหม่มักล้มเหลวภายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยทั้ง การตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน ขาดการวางแผนที่ดี และการลงมือทำที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถจัดการได้ถ้ารู้จักหลัก S.M.A.R.T. รวมถึงเพิ่ม 3 ทริกที่จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จของเป้าหมาย

อ่านต่อ >>

ญี่ปุ่น ฟื้นจากเงินฝืดสู่เงินเฟ้อ สร้างภูมิต้านทานสงครามการค้า

เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในปี 2025 พร้อมกับการพลิกจากภาวะเงินฝืดสู่ภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ผลกระทบจากประเด็นการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ เป็นไปอย่างจำกัด จึงทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสจะเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีและมีความแข็งแกร่งในปี 2025 นี้

อ่านต่อ >>

ธ.ทิสโก้ เปิด 3 กลุ่มสินทรัพย์ โอกาสสร้างกำไรทะยาน ! ปี 68

Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ คาดนโยบาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนุน 3 กลุ่มสินทรัพย์ราคาทะยาน ได้แก่ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย บริการการสื่อสาร และกลุ่มสถาบันการเงิน 2. กลุ่มประเทศที่ราคาหุ้นขึ้นช่วงสงครามการค้า คือ อินเดีย เวียดนาม และญี่ปุ่น และ 3. กลุ่มสินทรัพย์ได้ประโยชน์จากนโยบายการเงิน – การคลัง คือ ตราสารหนี้ รีท และทองคำ พร้อมชี้ราคาหุ้นจีน น้ำมัน และพลังงานจ่อดิ่ง แนะหลีกเลี่ยงลงทุน

อ่านต่อ >>

แจกทริกตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ปังไม่พังตั้งแต่ต้นปี

เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ หลายคนมักตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการเงิน เช่น การออมเงิน ลดหนี้ หรือเพิ่มรายได้ แต่บ่อยครั้งที่เป้าหมายเหล่านี้มักไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ข้อมูลจาก Forbes พบว่ากว่า 80% ของการตั้งเป้าหมายช่วงปีใหม่มักล้มเหลวภายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยทั้ง การตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน ขาดการวางแผนที่ดี และการลงมือทำที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถจัดการได้ถ้ารู้จักหลัก S.M.A.R.T. รวมถึงเพิ่ม 3 ทริกที่จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จของเป้าหมาย

อ่านต่อ >>

ญี่ปุ่น ฟื้นจากเงินฝืดสู่เงินเฟ้อ สร้างภูมิต้านทานสงครามการค้า

เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในปี 2025 พร้อมกับการพลิกจากภาวะเงินฝืดสู่ภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ผลกระทบจากประเด็นการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ เป็นไปอย่างจำกัด จึงทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสจะเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีและมีความแข็งแกร่งในปี 2025 นี้

อ่านต่อ >>

ธ.ทิสโก้ เปิด 3 กลุ่มสินทรัพย์ โอกาสสร้างกำไรทะยาน ! ปี 68

Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ คาดนโยบาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนุน 3 กลุ่มสินทรัพย์ราคาทะยาน ได้แก่ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย บริการการสื่อสาร และกลุ่มสถาบันการเงิน 2. กลุ่มประเทศที่ราคาหุ้นขึ้นช่วงสงครามการค้า คือ อินเดีย เวียดนาม และญี่ปุ่น และ 3. กลุ่มสินทรัพย์ได้ประโยชน์จากนโยบายการเงิน – การคลัง คือ ตราสารหนี้ รีท และทองคำ พร้อมชี้ราคาหุ้นจีน น้ำมัน และพลังงานจ่อดิ่ง แนะหลีกเลี่ยงลงทุน

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า