ซื้อ Bond ก่อน Fed ลดดอกเบี้ย

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1722591226475

ผลการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 30-31 ก.ค. ที่ผ่านมา แม้ว่าคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed มีมติคงดอกเบี้ยที่ 5.25% -5.50% เหมือนที่ผ่านมา 

คุณ เจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ได้ให้มุมมองว่า ตลาดแรงงานทั้งอัตราการว่างงาน การจ้างงานใหม่ที่ระดับปัจจุบันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อมากเหมือนในช่วงก่อนหน้า ขณะเดียวกันก็ไม่อยากเห็นการจ้างงานสหรัฐฯที่ชะลอตัวมากเกินไป รวมถึงหากเงินเฟ้อยังคงแนวโน้มเดิม(ชะลอตัว)ตามช่วงที่ผ่านมา มีโอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยได้เร็วที่สุดในการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ก.ย. 2024

นอกจากนี้ดัชนีเงินเฟ้ออ้างอิงที่ Fed ใช้ในการดำเนินนโยบายทางการเงิน ได้แก่ เงินเฟ้อผู้บริโภคพื้นฐานไม่รวมอาหารและพลังงาน (Core PCE) อยู่ที่ระดับ 2.6%YoY ยังมีแนวโน้มปรับตัวลงมาต่อเนื่่องจนใกล้เคียงกับกรอบที่ Fed คาดไว้ที่ 2%

ทั้งนี้แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯที่ตลาดคาดการณ์จาก CME FedWatch Tool ประเมินโอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. อย่างน้อย 1 ครั้งแตะระดับ 100% (1 ส.ค.) และจะทยอยลดดอกเบี้ยลง 4 ครั้งในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่สถิติการลดดอกเบี้ยของ Fed โดยเฉพาะในปี 1984, 1995 และ 2019 ที่ Fed ลดดอกเบี้ยและเศรษฐกิจไม่เกิดภาวะถดถอย พบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว Fed จะลดดอกเบี้ยได้ถึง 1.75% ในช่วง 18 เดือนข้างหน้า 

1722591443714
ที่มา : Bloomberg, TISCO Economic Strategy Unit (ESU)
 

นอกจากนี้จากข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 1984 ซึ่งครอบคลุมการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 6 รอบ ทาง TISCO ESU ยังพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงทุกรอบหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งสุดท้ายของ Fed โดยช่วง 6 เดือน หลัง Fed ขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย Bond Yield จะลดลงราว 50-150 bps 

1722591486951
ที่มา : Bloomberg, TISCO Economic Strategy Unit (ESU)

 

ดังนั้นหาก Bond Yield สหรัฐฯมีการปรับลดลงตามในสถิติที่ผ่านมา นั่นหมายความว่านักลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในช่วงต้นวงจรดอกเบี้ยขาลงรอบใหม่ ซึ่งจะได้ผลประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูงรวมถึงส่วนต่างของราคา (Capital Gain) เมื่อราคาของพันธบัตรปรับตัวขึ้น 

โดยทาง TISCO Wealth Advisory มองว่า สินทรัพย์ในกลุ่ม ตราสารหนี้สหรัฐฯ ที่มีอายุเฉลี่ยกลาง (Intermediate duration) 5-6 ปี จะได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากอัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าสนใจรวมถึงได้รับประโยชน์ราคาที่ปรับตัวขึ้นดีกว่าตราสารหนี้อายุสั้น และถือว่าเป็น Final Call ในการลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ก่อนที่ Fed เปลี่ยนวงจรดอกเบี้ยเป็นขาลงรอบใหม่

1722591580436
บทความล่าสุด

ล๊อค Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

กางสถิติหุ้นสหรัฐฯ บ่งชี้เข้าใกล้จุดซื้อลงทุน

หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวันปลอดปล่อย (Liberation day) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เปรียบเสมือนประกาศทำสงครามการค้าอย่างเป็นทางการด้วยการคิดอัตราภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก 10% ถึง 145% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 วันลดลงแรง -10.73% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดอันดับ 11 นับตั้งแต่เก็บสถิติช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>

ล๊อค Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

กางสถิติหุ้นสหรัฐฯ บ่งชี้เข้าใกล้จุดซื้อลงทุน

หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวันปลอดปล่อย (Liberation day) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เปรียบเสมือนประกาศทำสงครามการค้าอย่างเป็นทางการด้วยการคิดอัตราภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก 10% ถึง 145% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 วันลดลงแรง -10.73% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดอันดับ 11 นับตั้งแต่เก็บสถิติช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า