5 ประโยชน์ของการส่งต่อมรดก ด้วย “ประกันชีวิต”

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1704424663621 1

             การส่งต่อมรดกเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรวางแผนไว้ล่วงหน้า จากความเสี่ยงในปัจจุบันที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งด้านสุขภาพที่เกิดจากมลภาวะทางอากาศ อาจทำให้เกิดโรคร้ายแรงที่เราไม่คาดคิด หรือการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน โดยการวางแผนมรดกไม่จำเป็นเฉพาะวัยสูงอายุ แต่สามารถวางแผนได้ทุกช่วงวัย เพื่อให้แน่ใจว่าทรัพย์สินที่มีอยู่จะถูกส่งมอบให้กับคนที่คุณรักตามความต้องการและถูกต้องตามกฎหมาย การส่งต่อมรดกสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การยกให้ การแบ่งปันทรัพย์มรดก เป็นต้น แต่หนึ่งในวิธีการส่งต่อมรดกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือการส่งต่อมรดกด้วยประกันชีวิต

ประโยชน์ของการส่งต่อมรดกด้วยประกันชีวิต

1.เงินสินไหมมรณกรรมจากประกันชีวิตไม่ต้องเสียภาษีมรดก ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีการรับมรดก พ.ศ. 2558 กำหนดว่า “มรดก หมายความว่า ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย ตลอดทั้งสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดต่าง ๆ เว้นแต่ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้ว เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตาย” จากบทนิยามดังกล่าว จะเห็นได้ว่า เงินสินไหมมรณกรรมจากประกันชีวิตไม่ถือเป็นมรดกของผู้ตาย เนื่องจากไม่ถือเป็นทรัพย์สินของผู้ตายที่มีอยู่ก่อนหรือมีอยู่ในขณะถึงแก่ความตาย แต่เป็นทรัพย์สินที่เกิดขึ้นหลังจากผู้เอาประกันเสียชีวิตแล้ว

2.สามารถกำหนดผู้รับประโยชน์ได้ตามความประสงค์ ผู้เอาประกันสามารถกำหนดผู้รับประโยชน์ได้ตามความต้องการ โดยผู้รับประโยชน์สามารถเป็นบุคคลใดก็ได้ เช่น ทายาท คู่สมรส บุพการี พี่น้อง หรือองค์กรการกุศล เป็นต้น

3.เจ้าหนี้ไม่สามารถฟ้องร้องเรียกได้ เงินสินไหมมรณกรรมจากประกันชีวิตถือเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้รับประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต สิทธิในการรับเงินประกันชีวิตจึงตกเป็นของผู้รับประโยชน์ เจ้าหนี้ของผู้เอาประกันจะไม่สามารถฟ้องร้องเรียกเงินสินไหมมรณกรรมจากประกันชีวิตจากผู้รับประโยชน์ได้

4.จัดการเงินได้อย่างรวดเร็ว การเรียกร้องเงินสินไหมมรณกรรมจากประกันชีวิตสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้รับประโยชน์จะต้องดำเนินการแจ้งบริษัทประกันชีวิตทราบภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้เอาประกันเสียชีวิต หรือภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ทราบถึงการเสียชีวิตของผู้เอาประกัน ซึ่งต่างกับคำสั่งศาลในคดีมรดก โดยพินัยกรรมจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน และคดีมรดกโดยธรรมจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน

5.ค่าเบี้ยนำไปลดหย่อนภาษีได้ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง

เทคนิคเลือกประกันชีวิตเพื่อส่งต่อมรดก

การเลือกประกันชีวิตเพื่อส่งต่อมรดก ส่วนใหญ่นิยมเลือก “ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ” เนื่องจากประโยชน์ของแบบประกัน มีดังนี

– จำนวนเงินเอาประกัน แบบประกันตลอดชีพเป็นแบบประกันที่ให้ทุนประกันภัยสูงเบี้ยประกันภัยต่ำ เมื่อเทียบเบี้ยประกันต่อทุนจะมีความคุ้มค่าสูง

– ระยะเวลาการเอาประกัน แบบประกันตลอดชีพมีความคุ้มครองชีวิตระยะยาวจนสิ้นอายุขัย หรือ จนครบกำหนดอายุ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ครอบครัวมีหลักประกันระยะยาว ในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตก่อนครบกำหนดอายุสัญญา ผู้รับประโยชน์จะได้รับเงินสินไหมมรณกรรมจากประกันชีวิต

– เบี้ยประกัน ค่าเบี้ยประกันของประกันชีวิตคงที่ตลอดอายุสัญญา ทำให้ผู้เอาประกันไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเบี้ยประกันที่อาจสูงขึ้นในอนาคต

– มีความยืดหยุ่นสูง เลือกแบบประกันโดยผู้เอาประกันสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนเงินเอาประกันภัยได้ตามความต้องการ และ สามารถเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ได้

การส่งต่อมรดกด้วยประกันชีวิตจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการวางแผนส่งต่อมรดกให้กับคนที่คุณรัก หากเกิดอะไรขึ้นกับตัวเราขึ้นมาโดยไม่คาดคิด เงินตรงนี้จะถูกส่งต่อและสามารถนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว โดยเงินสินไหมมรณกรรมจากประกันชีวิตยังได้รับการยกเว้นภาษีมรดก และสามารถกำหนดผู้รับประโยชน์ได้ตามความต้องการ เพียงเท่านี้เราสามารถลดความกังวลและเพิ่มความสบายใจให้ทั้งตัวเองและคนที่เรารักได้อย่างมั่นใจ

บทความล่าสุด

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>

ปั้นเงินเกษียณเพิ่มจากประกันสังคมด้วยประกันบำนาญ

หลังจากปีนี้ที่คณะกรรมการประกันสังคมเห็นชอบหลักการปรับสูตรบำนาญชราภาพสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 แบบใหม่ชื่อว่า CARE หรือ Career-Average Revalued Earnings โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป โดย CARE ออกมาเพื่อให้จ่ายเงินบำนาญชราภาพแก่ผู้ประกันตนมากขึ้นรวมถึงการขยายเพดานค่าจ้างเพื่อคำนวณเงินสมทบ

อ่านต่อ >>

ทำไมควรมี REITs ติดพอร์ตในปี 2025 ?

ไตรมาสแรกของปี 2025 เป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลก และทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวในวงจำกัดและยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปีนี้คือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trusts: REITs) ซึ่งได้รับประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่เป็นขาลง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>

ปั้นเงินเกษียณเพิ่มจากประกันสังคมด้วยประกันบำนาญ

หลังจากปีนี้ที่คณะกรรมการประกันสังคมเห็นชอบหลักการปรับสูตรบำนาญชราภาพสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 แบบใหม่ชื่อว่า CARE หรือ Career-Average Revalued Earnings โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป โดย CARE ออกมาเพื่อให้จ่ายเงินบำนาญชราภาพแก่ผู้ประกันตนมากขึ้นรวมถึงการขยายเพดานค่าจ้างเพื่อคำนวณเงินสมทบ

อ่านต่อ >>

ทำไมควรมี REITs ติดพอร์ตในปี 2025 ?

ไตรมาสแรกของปี 2025 เป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลก และทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวในวงจำกัดและยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปีนี้คือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trusts: REITs) ซึ่งได้รับประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่เป็นขาลง

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า