3 ข้อควรรู้เมื่อคนศัลยกรรมอยากทำประกันสุขภาพ

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1718686342057

ปัจจุบันการทำศัลยกรรมเพื่อความสวยงามเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย จากข้อมูลของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (International Society of Aesthetic Plastic Surgery : ISAPS) ตั้งแต่ปีค.ศ. 2019 – 2023 พบว่ามีจำนวนคนทำศัลยกรรมและหัตถการในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึงปีละ 8.7% โดยเฉลี่ย โดยเฉพาะปี 2023 ที่มีจำนวนคนผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อความสวยงามสูงขึ้นถึง 7% เมื่อเทียบทั่วโลกที่มีจำนวนคนทำศัลยกรรมเพิ่มขึ้นเพียง 5.5% เท่านั้น อย่างไรก็ตามการศัลยกรรมเพื่อความสวยงามอาจมีผลกระทบบางอย่างที่ผู้ทำศัลยกรรมหรือกำลังจะทำศัลยกรรมต้องคำนึงถึง 3 สิ่งเมื่อสนใจทำประกันสุขภาพ เพื่อให้เรายังได้รับความคุ้มครองจากประกันสุขภาพครบถ้วนตามที่เราต้องการ

อันดับแรก คือ ประกันสุขภาพโดยทั่วไปจะยกเว้นความคุ้มครองการศัลยกรรมสำหรับความสวยงาม ก่อนอื่นเราอาจต้องเข้าใจคำนิยามในเชิงการแพทย์ของการทำศัลยกรรม หมายถึง “การผ่าตัด” โดยไม่ได้แยกว่าเพื่อความสวยงามหรือเพื่อการรักษาโรค ดังนั้น การผ่าตัดไส้ติ่ง, ผ่าตัดคลอด หรือผ่าตัดเสริมหน้าอกถือว่าเป็นการทำศัลยกรรมโดยศัลยแพทย์ทั้งสิ้น ประเด็นสำคัญสำหรับผู้ที่จะทำประกันสุขภาพ คือ ถ้าตั้งใจทำประกันเพื่อหวังจะเบิกค่าทำศัลยกรรมเพื่อความสวยงามจะไม่สามารถเบิกสินไหมกับบริษัทรับประกันได้ เพราะถือว่าการทำศัลยกรรมเกิดขึ้นเมื่อผู้เอาประกันอยู่ในภาวะที่เป็นปกติอยู่ อย่างไรก็ดีหากการทำศัลยกรรมนั้นแพทย์ระบุว่าเป็นความจำเป็นทางการแพทย์ เช่น การผ่าตัดมะเร็งเต้านมที่จำเป็นต้องตกแต่งหน้าอกให้ลดผลกระทบกับการดำรงชีวิตนั้นจะสามารถเบิกสินไหมได้ตามปกติ

อันดับที่สองคือ ผู้ที่เคยศัลยกรรมจำเป็นต้องแถลงบริษัทประกันให้ครบถ้วน โดยทั่วไปในใบสมัครทำประกันสุขภาพที่ไม่มีการตรวจสุขภาพจะยังมีแบบสอบถามเกี่ยวกับประวัติการรักษาเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาลซึ่งรวมไปถึงการผ่าตัดเพื่อการรักษาโรคด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ดีแม้จะเคยทำศัลยกรรมเพียงเพื่อความงามเท่านั้นก็ยังจำเป็นต้องแถลงประวัติการทำศัลยกรรมรวมไปถึงการทำหัตถการเพื่อความสวยงามให้กับบริษัทประกันด้วย หากไม่ได้แถลงกับบริษัทรับประกันไว้จนในภายหลังหากพบว่าเจ็บป่วยก็อาจมีผลต่อการพิจารณารับประกันได้ เช่น หากเคยผ่าตัดเสริมหน้าอกแล้วไม่ได้แถลงไว้ในใบคำขอ เมื่อตรวจพบเจอมะเร็งเต้านมแล้วบริษัทรับประกันพบว่าผู้ป่วยเคยมีประวัติศัลยกรรมหน้าอกมาก่อนโดยไม่แถลงประวัติสุขภาพก็มีโอกาสที่บริษัทรับประกันจะปฏิเสธความคุ้มครองและอาจยกเลิกกรมธรรม์ทันทีตามหลักสุจริตใจอย่างยิ่ง แม้ว่าจะเป็นมะเร็งคนละตำแหน่งกับจุดที่ทำศัลยกรรมก็มีโอกาสที่บริษัทจะบอกเลิกสัญญาบนเงื่อนไขที่ผู้เอาประกันปกปิดข้อมูลสุขภาพเช่นกัน แต่หากมีการแถลงชัดเจนในใบคำขอว่าเคยศัลยกรรมและบริษัทรับประกันเรียบร้อย บริษัทรับประกันย่อมต้องให้ความคุ้มครองตามที่ระบุในกรมธรรม์ ไม่เช่นนั้นบริษัทประกันจะผิดสัญญาประกันภัยทันที

ข้อควรรู้อันดับที่สามคือ บริษัทรับประกันสามารถยกเลิกสัญญาได้แม้มาตรฐานประกันสุขภาพใหม่ (New Health Standard: NHS) ให้บริษัทประกันการันตีต่ออายุ โดยข้อหนดนี้ คปภ. ปรับให้บริษัทประกันกำหนดเงื่อนไขการไม่ต่ออายุสัญญาให้ชัดเจนโดยมี 3 ข้อ คือ 1) ไม่แถลงหรือแถลงเท็จเกี่ยวกับข้อมูลสุขภาพในใบคำขอหรือใบต่ออายุกรมธรรม์, 2) เรียกร้องผลประโยชน์จากอาการเจ็บป่วยโดยไม่มีเหตุผลทางการแพทย์ และ 3) เรียกร้องค่าชดเชยรายได้เกินกว่ารายได้ที่แท้จริง ดังนั้น แม้บริษัทรับประกันจะไม่สามารถบอกล้างสัญญาได้เมื่อปกปิดข้อมูลสุขภาพเกินกว่า 2 ปี หรือสามารถเบิกสินไหมได้ตามปกติ แต่เนื่องจากมีการปกปิดข้อมูลสุขภาพกับบริษัทรับประกันทำให้บริษัทมีสิทธิยกเลิกสัญญาในปีกรมธรรม์ถัดไปได้ทันที และมีโอกาสที่จะทำประกันสุขภาพกับบริษัทรับประกันอื่นยากขึ้น เพราะถือว่ามีประวัติการปกปิดข้อมูลสุขภาพซึ่งไม่เป็นไปตามหลักสุจริตใจอย่างยิ่ง

แม้ว่าความนิยมการทำศัลยกรรมเพื่อความสวยงามที่มีมากขึ้นในไทยที่นอกเหนือจากเป็นการเสริมสวย ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีอันส่งผลต่อการหารายได้ให้มากขึ้น แต่หากเราไม่ทราบถึงข้อควรรู้กับผลกระทบของการวางแผนการเงินในอนาคตโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่อาจตามมานั้น อาจทำให้การวางแผนความเสี่ยงด้านสุขภาพด้วยประกันภัยต่างๆ จะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ดังนั้นควรศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันสุขภาพก่อนทำศัลยกรรมความงาม หรือหากทำศัลยกรรมไปแล้วก็ควรแถลงข้อมูลแก่บริษัทประกันไม่ครบถ้วนเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงในการถูกปฏิเสธความคุ้มครองค่าใช้จ่ายสุขภาพในภายหลัง

บทความโดย ศิวกร ทองหล่อ

CFP® Wealth Manager

บทความล่าสุด

แจกทริกตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ปังไม่พังตั้งแต่ต้นปี

เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ หลายคนมักตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการเงิน เช่น การออมเงิน ลดหนี้ หรือเพิ่มรายได้ แต่บ่อยครั้งที่เป้าหมายเหล่านี้มักไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ข้อมูลจาก Forbes พบว่ากว่า 80% ของการตั้งเป้าหมายช่วงปีใหม่มักล้มเหลวภายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยทั้ง การตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน ขาดการวางแผนที่ดี และการลงมือทำที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถจัดการได้ถ้ารู้จักหลัก S.M.A.R.T. รวมถึงเพิ่ม 3 ทริกที่จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จของเป้าหมาย

อ่านต่อ >>

ญี่ปุ่น ฟื้นจากเงินฝืดสู่เงินเฟ้อ สร้างภูมิต้านทานสงครามการค้า

เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในปี 2025 พร้อมกับการพลิกจากภาวะเงินฝืดสู่ภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ผลกระทบจากประเด็นการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ เป็นไปอย่างจำกัด จึงทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสจะเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีและมีความแข็งแกร่งในปี 2025 นี้

อ่านต่อ >>

ธ.ทิสโก้ เปิด 3 กลุ่มสินทรัพย์ โอกาสสร้างกำไรทะยาน ! ปี 68

Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ คาดนโยบาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนุน 3 กลุ่มสินทรัพย์ราคาทะยาน ได้แก่ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย บริการการสื่อสาร และกลุ่มสถาบันการเงิน 2. กลุ่มประเทศที่ราคาหุ้นขึ้นช่วงสงครามการค้า คือ อินเดีย เวียดนาม และญี่ปุ่น และ 3. กลุ่มสินทรัพย์ได้ประโยชน์จากนโยบายการเงิน – การคลัง คือ ตราสารหนี้ รีท และทองคำ พร้อมชี้ราคาหุ้นจีน น้ำมัน และพลังงานจ่อดิ่ง แนะหลีกเลี่ยงลงทุน

อ่านต่อ >>

แจกทริกตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ปังไม่พังตั้งแต่ต้นปี

เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ หลายคนมักตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการเงิน เช่น การออมเงิน ลดหนี้ หรือเพิ่มรายได้ แต่บ่อยครั้งที่เป้าหมายเหล่านี้มักไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ข้อมูลจาก Forbes พบว่ากว่า 80% ของการตั้งเป้าหมายช่วงปีใหม่มักล้มเหลวภายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยทั้ง การตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน ขาดการวางแผนที่ดี และการลงมือทำที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถจัดการได้ถ้ารู้จักหลัก S.M.A.R.T. รวมถึงเพิ่ม 3 ทริกที่จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จของเป้าหมาย

อ่านต่อ >>

ญี่ปุ่น ฟื้นจากเงินฝืดสู่เงินเฟ้อ สร้างภูมิต้านทานสงครามการค้า

เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในปี 2025 พร้อมกับการพลิกจากภาวะเงินฝืดสู่ภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ผลกระทบจากประเด็นการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ เป็นไปอย่างจำกัด จึงทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสจะเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีและมีความแข็งแกร่งในปี 2025 นี้

อ่านต่อ >>

ธ.ทิสโก้ เปิด 3 กลุ่มสินทรัพย์ โอกาสสร้างกำไรทะยาน ! ปี 68

Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ คาดนโยบาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนุน 3 กลุ่มสินทรัพย์ราคาทะยาน ได้แก่ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย บริการการสื่อสาร และกลุ่มสถาบันการเงิน 2. กลุ่มประเทศที่ราคาหุ้นขึ้นช่วงสงครามการค้า คือ อินเดีย เวียดนาม และญี่ปุ่น และ 3. กลุ่มสินทรัพย์ได้ประโยชน์จากนโยบายการเงิน – การคลัง คือ ตราสารหนี้ รีท และทองคำ พร้อมชี้ราคาหุ้นจีน น้ำมัน และพลังงานจ่อดิ่ง แนะหลีกเลี่ยงลงทุน

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า