“Innovative Healthcare” บริบทใหม่แห่งการลงทุนในหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1629790834934

การลงทุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare ในอดีตที่ผ่านมา เรามักจะคุ้นเคยกับการลงทุนในอุตสาหกรรม Healthcare แบบดั้งเดิม (Conventional Healthcare) ซึ่งมี Performance ย้อนหลังไม่ต่างจากตลาดมากนัก ทั้งๆ ที่อุตสาหกรรม Healthcare ถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวสูง อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนให้หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น

หากมาดู Sector ในหุ้นกลุ่ม Conventional Healthcare ส่วนใหญ่กว่า 30% เป็นการเน้นลงทุนในบริษัทผู้ผลิตยาขนาดใหญ่ (Drug Manufacturers) จึงไม่แปลกที่ในช่วงที่ผ่านมา Performance ของกลุ่ม Conventional Healthcare จะให้ผลตอบแทนในระยะยาวไม่ต่างจากตลาด เนื่องจากหุ้นบริษัทยาในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายควบคุมราคายาของ Hillary Clinton ที่ทำให้กองทุน SPDR S&P Pharmaceuticals ETF (XPH) ที่เป็นตัวแทนของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตยา ปรับตัวลงมาจากจุดสูงสุดในช่วงปี 2016 กว่า -20% 

และประเด็นการควบคุมราคายาตามใบสั่งแพทย์ (Prescription Drug Proposals) ทำให้ราคาของกองทุนดังกล่าวปรับตัวลงมาจากจุดสูงสุดในปี 2018 กว่า -29% เช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้ราคาย้อนหลัง 5 ปี ของกองทุน SPDR S&P Pharmaceuticals ETF ปรับตัวขึ้นเฉลี่ยน้อยกว่า 6% ต่อปี (as of February 3, 2021)

จะเห็นได้ว่า หุ้นกลุ่ม Conventional Healthcare ที่เน้นการลงทุนในบริษัทยาใหญ่ๆ ในช่วงที่ผ่านมาเติบโตน้อย อย่างไรก็ตาม ยังมีหุ้นกลุ่ม Healthcare อีกกลุ่มหนึ่งที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นและสามารถเอาชนะหุ้นกลุ่ม Conventional Healthcare ได้อย่างมีนัยสำคัญ นั่นก็คือ หุ้นกลุ่ม “Innovative Healthcare” 

Innovative Healthcare ธุรกิจแห่งอนาคต

ด้วยศักยภาพในการเติบโตสูงของกลุ่ม Innovative Healthcare ซึ่งมีการนำนวัตกรรมทางการแพทย์มาผสานกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม Biotechnology ที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการผลิตยารักษาโรคร้ายแรงชนิดต่างๆ โดยยาที่ผลิตด้วยนวัตกรรม Biotech ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ EvaluatePharma (June, 2020) มีการคาดการณ์ว่าในปี 2026 ยาที่มียอดขายสูงสุด 100 อันดับแรก จะเป็นยาที่ผลิตด้วยนวัตกรรม Biotech มากถึง 35% จากปี 2012 ที่มีเพียง 20% เท่านั้น 

แผนภาพที่ 1 : สัดส่วนยอดขายยารักษาโรคแบบ Conventional Technology เทียบกับยอดขายยา Biotechnology

1629791466521

ที่มา: EvaluatePharma, June 2020

โดยนับตั้งแต่ปี 2012 ถึง 2020 ยอดขายยาที่พัฒนาจาก Biotechnology มีการเติบโตที่โดดเด่น โดยเติบโตได้ถึง 90% ขณะที่ยาที่พัฒนาจาก Conventional Technology มีอัตราการเติบโตเพียง 7% เท่านั้น และมีการคาดการณ์จาก  EvaluatePharma (as of June, 2020) ว่ายอดขายยาที่ใช้เทคโนโลยีของ Biotechnology ในปี 2026 จะสามารถเติบโตได้มากถึง 77%  ทั้งนี้ ยาที่มี Market Share สูงที่สุดอยู่ที่ประมาณ 25% ยังคงเป็นยาที่ใช้ในการรักษากลุ่มโรคมะเร็ง (Oncology) ซึ่งคาดการณ์ว่ายอดขายในปี 2019-2026 จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 12% ต่อปี 

Digital Health ผลตอบแทนเด่นเหนืออุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์

อีกกลุ่มถัดมาคือ กลุ่ม Digital Health ที่นำเทคโนโลยีทาง Digital มารวมกับเครื่องมือที่ทันสมัย มาช่วยในการดูแลรักษาผู้ป่วย ยกตัวอย่างเช่น Telehealth, การผลิตเครื่องมือตรวจและวินิจฉัยโรคพกพา, การผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์ (Robotic Surgery) รวมไปถึงการใช้ระบบ Cloud ในการจัดเก็บข้อมูลผู้ป่วย ซึ่งมีการคาดการณ์จาก gminsights.com ว่า ในปี 2020-2026 กลุ่ม Digital Health จะมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยกว่า 28% ต่อปี โดยเฉพาะ Telehealth ในจีนที่ National Health Commission of PRC คาดการณ์ว่า Telehealth ในปี 2016-2025 จะมีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตเฉลี่ยกว่า 35% ต่อปี 

ทั้งนี้ กองทุนกลุ่ม Innovative Healthcare ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (as of February 3, 2021) ยกตัวอย่างเช่น กองทุน Polar Capital Fund Plu – Biotechnology Fund ที่เป็นตัวแทนของกลุ่ม Biotech  ปรับตัวขึ้นถึง 197% และกองทุน CS (Lux) Digital Health Equity Fund ที่เป็นตัวแทนของกลุ่ม Digital Health ปรับตัวขึ้นกว่า 187% ขณะที่ Healthcare Select Sector SPDR Fund ให้ผลตอบแทนเพียงราว 74%

แผนภาพที่ 2 : ตัวอย่างผลตอบแทนกองทุนกลุ่ม Innovative Healthcare เทียบกับกองทุนที่ลงทุนในกลุ่มเฮลธ์แคร์ดั้งเดิม ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

1629791478889

ที่มา: Bloomberg

จึงกล่าวได้ว่า อุตสาหกรรม Innovative Healthcare ถือเป็นอุตสาหกรรม Healthcare รูปแบบใหม่ที่มีอัตราการเติบโตระยะยาวที่สูง และสามารถทำผลตอบแทนได้ Outperform อุตสาหกรรม Healthcare แบบเดิมๆ (Conventional Healthcare) จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่จะเปลี่ยนการลงทุนในกลุ่ม Healthcare แบบเดิมๆ มาเป็นกลุ่ม Innovative Healthcare เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในอนาคต 

===================================

หากท่านใดมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการวางแผนการเงินของตนเอง สามารถส่งคำถามของท่านมาได้ที่ [email protected]

 บทความโดย ณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ CFP® Head of Wealth Advisory

เผยแพร่ครั้งแรกที่ Forbes Thailand

บทความล่าสุด

แจกทริกตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ปังไม่พังตั้งแต่ต้นปี

เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ หลายคนมักตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการเงิน เช่น การออมเงิน ลดหนี้ หรือเพิ่มรายได้ แต่บ่อยครั้งที่เป้าหมายเหล่านี้มักไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ข้อมูลจาก Forbes พบว่ากว่า 80% ของการตั้งเป้าหมายช่วงปีใหม่มักล้มเหลวภายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยทั้ง การตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน ขาดการวางแผนที่ดี และการลงมือทำที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถจัดการได้ถ้ารู้จักหลัก S.M.A.R.T. รวมถึงเพิ่ม 3 ทริกที่จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จของเป้าหมาย

อ่านต่อ >>

ญี่ปุ่น ฟื้นจากเงินฝืดสู่เงินเฟ้อ สร้างภูมิต้านทานสงครามการค้า

เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในปี 2025 พร้อมกับการพลิกจากภาวะเงินฝืดสู่ภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ผลกระทบจากประเด็นการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ เป็นไปอย่างจำกัด จึงทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสจะเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีและมีความแข็งแกร่งในปี 2025 นี้

อ่านต่อ >>

ธ.ทิสโก้ เปิด 3 กลุ่มสินทรัพย์ โอกาสสร้างกำไรทะยาน ! ปี 68

Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ คาดนโยบาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนุน 3 กลุ่มสินทรัพย์ราคาทะยาน ได้แก่ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย บริการการสื่อสาร และกลุ่มสถาบันการเงิน 2. กลุ่มประเทศที่ราคาหุ้นขึ้นช่วงสงครามการค้า คือ อินเดีย เวียดนาม และญี่ปุ่น และ 3. กลุ่มสินทรัพย์ได้ประโยชน์จากนโยบายการเงิน – การคลัง คือ ตราสารหนี้ รีท และทองคำ พร้อมชี้ราคาหุ้นจีน น้ำมัน และพลังงานจ่อดิ่ง แนะหลีกเลี่ยงลงทุน

อ่านต่อ >>

แจกทริกตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ปังไม่พังตั้งแต่ต้นปี

เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ หลายคนมักตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการเงิน เช่น การออมเงิน ลดหนี้ หรือเพิ่มรายได้ แต่บ่อยครั้งที่เป้าหมายเหล่านี้มักไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ข้อมูลจาก Forbes พบว่ากว่า 80% ของการตั้งเป้าหมายช่วงปีใหม่มักล้มเหลวภายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยทั้ง การตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน ขาดการวางแผนที่ดี และการลงมือทำที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถจัดการได้ถ้ารู้จักหลัก S.M.A.R.T. รวมถึงเพิ่ม 3 ทริกที่จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จของเป้าหมาย

อ่านต่อ >>

ญี่ปุ่น ฟื้นจากเงินฝืดสู่เงินเฟ้อ สร้างภูมิต้านทานสงครามการค้า

เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในปี 2025 พร้อมกับการพลิกจากภาวะเงินฝืดสู่ภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ผลกระทบจากประเด็นการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ เป็นไปอย่างจำกัด จึงทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสจะเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีและมีความแข็งแกร่งในปี 2025 นี้

อ่านต่อ >>

ธ.ทิสโก้ เปิด 3 กลุ่มสินทรัพย์ โอกาสสร้างกำไรทะยาน ! ปี 68

Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ คาดนโยบาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนุน 3 กลุ่มสินทรัพย์ราคาทะยาน ได้แก่ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย บริการการสื่อสาร และกลุ่มสถาบันการเงิน 2. กลุ่มประเทศที่ราคาหุ้นขึ้นช่วงสงครามการค้า คือ อินเดีย เวียดนาม และญี่ปุ่น และ 3. กลุ่มสินทรัพย์ได้ประโยชน์จากนโยบายการเงิน – การคลัง คือ ตราสารหนี้ รีท และทองคำ พร้อมชี้ราคาหุ้นจีน น้ำมัน และพลังงานจ่อดิ่ง แนะหลีกเลี่ยงลงทุน

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า