อินโดนีเซีย…ม้ามืดด้านการลงทุนที่ทั่วโลกจับตา

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1663063726344 1

รู้หรือไม่ 60% ของค่าใช้จ่ายในการบริโภคทั่วโลกในปี 2030 จะมาจากภูมิภาคเอเชีย ทั้งความเจริญทางเศรษฐกิจและพลังอำนาจในการบริโภคที่กำลังเคลื่อนย้ายจากชาติตะวันตกสู่ชาติตะวันออกอย่างต่อเนื่อง และจะเร่งตัวขึ้นอย่างมากในอนาคต ทำให้มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2050 ประเทศที่มีรายได้ต่อหัวของประชากรสูงสุด (GDP Per Capita) ในโลก จะมาจากภูมิภาคเอเชียถึง 4 จาก 5 ประเทศ แต่ประเทศที่กำลังถูกจับตามองจากทั่วโลก และเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุน นั่นคือ ประเทศอินโดนีเซีย

แต่เดิมอินโดนีเซียเป็นประเทศที่เน้นการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนการส่งออกน้ำมันปาล์มกว่า 50% ของมูลค่าการส่งออกทั่วโลก และสัดส่วนการส่งออกดีบุกที่สูงถึงราว 25% ของโลก ซึ่งการที่ประเทศอินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตทรัพยากรธรรมชาติรายสำคัญของโลกบวกกับการให้ประโยชน์ด้านภาษีแก่บริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนหรือตั้งฐานการผลิต ทำให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (FDI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2015 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 133 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025 หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยทบต้น (CAGR) +32% YoY

อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันด้วยจำนวนประชากรเกือบ 280 ล้านคน ซึ่งมากที่สุดและเป็นอันดับที่ 4 ของโลก โดยราว 60% อยู่ในช่วงวัยทำงาน (20 – 64 ปี) บวกกับมีค่าเฉลี่ยอายุของประชากรเพียง 29.7 ปี ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 31 ปี ทำให้อินโดนีเซียจะมีความได้เปรียบและโอกาสในการเติบโตด้านการบริโภคได้อีกมาก ด้วยในปัจจุบันสัดส่วนการบริโภคของอินโดนีเซียยังอยู่ในระดับต่ำ อาทิ จำนวนบัญชีธนาคารที่มีเพียง 49% ของจำนวนประชากรวัยผู้ใหญ่ เปรียบเทียบกับมาเลเซียที่ 83% และสัดส่วนการใช้โทรศัพท์ Smartphone ของประชากรอินโดนีเซียที่มีราว 67% เปรียบเทียบกับประเทศไทยที่มากเกือบ 80% ทำให้การเติบโตด้านการบริโภคของอินโดนีเซียจะเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศในอนาคต

ในด้านการลงทุน ตลาดหุ้นอินโดนีเซียยังมีราคาไม่สูงนัก โดยมีอัตราส่วน Forward P/E Ratio ที่ราว 16.3x เท่า อยู่ในระดับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี และมีอัตราส่วน Earning Yield ที่ 6.60% สูงที่สุดในรอบ 10 ปี นอกจากนี้ การเติบโตของยอดขายและกำไรต่อหุ้นถูกคาดการณ์โดย Bloomberg ว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างมากในปี 2022 นี้ โดยคาดว่ายอดขายและกำไรต่อหุ้นจะเติบโต +67.54% YoY และ +57.86% ตามลำดับ และเติบโต +7.8% YoY และ +12.68% ตามลำดับในปีหน้า อีกทั้งยังมี Correlation กับตลาดหุ้นอื่นๆ ที่ต่ำ อาทิ มีระดับ Correlation กับตลาดหุ้นโลกและจีนที่ 0.34 และ 0.32 ตามลำดับ

จะเห็นได้ว่า แม้การลงทุนในประเทศอินโดนีเซียในปัจจุบันจะยังไม่แพร่หลายในมุมมองของนักลงทุนไทยมากนัก แต่ด้วยปัจจัยการเติบโตและโอกาสในอนาคตของอินโดนีเซียถือได้ว่าน่าสนใจมาก นอกจากนี้ ราคาหุ้นในปัจจุบันที่ยังไม่สูง บวกกับยังสามารถกระจายความเสี่ยงโดยรวมให้กับพอร์ตการลงทุน ทำให้ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกทางการลงทุนที่เหมาะสมกับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนไทยเป็นอย่างมาก

==============================

บทความโดย : วิศรุต จารุอนันตพงษ์ AFPT Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

 

เผยแพร่ครั้งแรกในคอลัมน์ Make Money Make Healthy ของ TNN

บทความล่าสุด

แจกทริกตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ปังไม่พังตั้งแต่ต้นปี

เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ หลายคนมักตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการเงิน เช่น การออมเงิน ลดหนี้ หรือเพิ่มรายได้ แต่บ่อยครั้งที่เป้าหมายเหล่านี้มักไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ข้อมูลจาก Forbes พบว่ากว่า 80% ของการตั้งเป้าหมายช่วงปีใหม่มักล้มเหลวภายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยทั้ง การตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน ขาดการวางแผนที่ดี และการลงมือทำที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถจัดการได้ถ้ารู้จักหลัก S.M.A.R.T. รวมถึงเพิ่ม 3 ทริกที่จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จของเป้าหมาย

อ่านต่อ >>

ญี่ปุ่น ฟื้นจากเงินฝืดสู่เงินเฟ้อ สร้างภูมิต้านทานสงครามการค้า

เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในปี 2025 พร้อมกับการพลิกจากภาวะเงินฝืดสู่ภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ผลกระทบจากประเด็นการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ เป็นไปอย่างจำกัด จึงทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสจะเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีและมีความแข็งแกร่งในปี 2025 นี้

อ่านต่อ >>

ธ.ทิสโก้ เปิด 3 กลุ่มสินทรัพย์ โอกาสสร้างกำไรทะยาน ! ปี 68

Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ คาดนโยบาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนุน 3 กลุ่มสินทรัพย์ราคาทะยาน ได้แก่ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย บริการการสื่อสาร และกลุ่มสถาบันการเงิน 2. กลุ่มประเทศที่ราคาหุ้นขึ้นช่วงสงครามการค้า คือ อินเดีย เวียดนาม และญี่ปุ่น และ 3. กลุ่มสินทรัพย์ได้ประโยชน์จากนโยบายการเงิน – การคลัง คือ ตราสารหนี้ รีท และทองคำ พร้อมชี้ราคาหุ้นจีน น้ำมัน และพลังงานจ่อดิ่ง แนะหลีกเลี่ยงลงทุน

อ่านต่อ >>

แจกทริกตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ปังไม่พังตั้งแต่ต้นปี

เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ หลายคนมักตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการเงิน เช่น การออมเงิน ลดหนี้ หรือเพิ่มรายได้ แต่บ่อยครั้งที่เป้าหมายเหล่านี้มักไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ข้อมูลจาก Forbes พบว่ากว่า 80% ของการตั้งเป้าหมายช่วงปีใหม่มักล้มเหลวภายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยทั้ง การตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน ขาดการวางแผนที่ดี และการลงมือทำที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถจัดการได้ถ้ารู้จักหลัก S.M.A.R.T. รวมถึงเพิ่ม 3 ทริกที่จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จของเป้าหมาย

อ่านต่อ >>

ญี่ปุ่น ฟื้นจากเงินฝืดสู่เงินเฟ้อ สร้างภูมิต้านทานสงครามการค้า

เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในปี 2025 พร้อมกับการพลิกจากภาวะเงินฝืดสู่ภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ผลกระทบจากประเด็นการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ เป็นไปอย่างจำกัด จึงทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสจะเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีและมีความแข็งแกร่งในปี 2025 นี้

อ่านต่อ >>

ธ.ทิสโก้ เปิด 3 กลุ่มสินทรัพย์ โอกาสสร้างกำไรทะยาน ! ปี 68

Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ คาดนโยบาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนุน 3 กลุ่มสินทรัพย์ราคาทะยาน ได้แก่ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย บริการการสื่อสาร และกลุ่มสถาบันการเงิน 2. กลุ่มประเทศที่ราคาหุ้นขึ้นช่วงสงครามการค้า คือ อินเดีย เวียดนาม และญี่ปุ่น และ 3. กลุ่มสินทรัพย์ได้ประโยชน์จากนโยบายการเงิน – การคลัง คือ ตราสารหนี้ รีท และทองคำ พร้อมชี้ราคาหุ้นจีน น้ำมัน และพลังงานจ่อดิ่ง แนะหลีกเลี่ยงลงทุน

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า