ลงทุน Global Bond ให้ดี ปีนี้ต้องเลือก Bond ระยะกลาง-สั้น

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

ลงทุน Global Bond ให้ดี 800X420

 

เปิดปี 2568 ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ รวมถึงประเทศหลักส่วนใหญ่ยังเป็นทิศทางขาลง ช่วงนี้จึงนับเป็นจังหวะที่น่าสนใจในการเข้าลงทุนตราสารหนี้โลก แต่ต้องเลือกลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-สั้น เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในปีนี้ 

ในระยะกว่า 2 ปีที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ระยะสั้นกับระยะยาวมีความใกล้เคียงกันมากถึงขั้นเกิดภาวะ Inverted Yield Curve (ผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นสูงกว่าพันธบัตรระยะยาว) ในบางช่วงเวลา ซึ่งเกิดจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ในปีนี้มุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ Yield Curve ของพันธบัตรสหรัฐฯ เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ คือ ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอยู่ในระดับสูงกว่าผลตอบแทนระยะสั้น ดังที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ 

ตั้งแต่ช่วงเดือนธ.ค. 2567 จนถึงปัจจุบัน ผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ10 ปี ดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและมีส่วนต่างกับพันธบัตรอายุ 2 ปีอย่างชัดเจน สะท้อนจากเส้น Yield Curve ที่มีความชันขึ้น ซึ่งหากพิจารณาจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐฯในปีนี้ที่ TISCO ESU คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯลงได้อีกราว 2 ครั้ง จากระดับปัจจุบันที่ 4.25-4.50% ไปอยู่ที่ 3.75-4.00% ณ สิ้นปี 2568 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯระยะสั้นมีโอกาสที่จะปรับตัวลงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ราว 4% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นสอดคล้องกับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในระยะข้างหน้า 

หากพิจารณาที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ ในปัจจุบัน พบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี อยู่ที่ราว 4.6% และคาดว่าจะอยู่ที่ระดับนี้ ณ สิ้นปี 2568 ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ปัจจุบันอยู่ที่ราว 4.3% มีโอกาสจะปรับตัวลงไปอยู่ที่ 4% ณ สิ้นปี 2568 การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นถึงกลางในช่วงนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ทั้งจากผลตอบแทนจากการถือครองตราสาร และจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) เมื่อ Bond Yield ปรับตัวลง โดย TISCO Wealth Advisory ประเมินว่าหากลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนรวมกว่า 5% ในปี 2568 นี้ 

ดังนั้น ในช่วงนี้ที่ Yield Curve เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จึงเป็นจังหวะที่สำคัญสำหรับการเข้าลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศระยะสั้นถึงระยะกลางเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด 

ภาพ: คาดผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปี 2025 ปรับเข้าสู่ภาวะปกติ (Bond ยาวอยู่ระดับสูงกว่า Bond สั้น) 

Capture 2

ที่มา: Bloomberg, TISCO Wealth Advisory 

 

บทความโดย ณัฐพร ธรวงศ์ธวัช AFPT™  

Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

บทความล่าสุด

ล๊อค Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

กางสถิติหุ้นสหรัฐฯ บ่งชี้เข้าใกล้จุดซื้อลงทุน

หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวันปลอดปล่อย (Liberation day) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เปรียบเสมือนประกาศทำสงครามการค้าอย่างเป็นทางการด้วยการคิดอัตราภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก 10% ถึง 145% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 วันลดลงแรง -10.73% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดอันดับ 11 นับตั้งแต่เก็บสถิติช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>

ล๊อค Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

กางสถิติหุ้นสหรัฐฯ บ่งชี้เข้าใกล้จุดซื้อลงทุน

หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวันปลอดปล่อย (Liberation day) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เปรียบเสมือนประกาศทำสงครามการค้าอย่างเป็นทางการด้วยการคิดอัตราภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก 10% ถึง 145% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 วันลดลงแรง -10.73% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดอันดับ 11 นับตั้งแต่เก็บสถิติช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า