เวียดนาม & อินโดนีเซีย 2 ดาวรุ่ง สวนกระแส Recession

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1662603383397 1

ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นและกระแส Recession ของเศรษฐกิจโลก หากหันกลับมามองฝั่งเอเชียจะพบว่ามีบางประเทศที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัวอย่างโดดเด่นสวนทิศทางของเศรษฐกิจโลกอย่างชัดเจนและเป็นที่น่าดึงดูดในการลงทุน ซึ่งก็คือ เวียดนาม และอินโดนีเซีย

เศรษฐกิจเวียดนาม เติบโตได้อย่างโดดเด่นหลังฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยล่าสุดในไตรมาส 2 ปี 2022 นี้ GDP เวียดนามขยายตัวได้ถึง 7.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่แรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อของเวียดนามยังอยู่ในระดับต่ำ โดยอัตราเงินเฟ้อล่าสุดเดือนกรกฎาคมของเวียดนามชะลอตัวลงมาที่ 3.14% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ 4% ทำให้เวียดนามยังสามารถใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ในขณะที่ประเทศอื่นต้องใช้นโยบายแบบเข้มงวดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดย IMF คาดว่า GDP เวียดนามจะเติบโตได้ที่ 6% ในปี 2022 นี้ และ 7.2% ในปี 2023

ในมุมของตลาดหุ้นเวียดนาม ปี 2021 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวขึ้นถึง 36% อย่างไรก็ตาม ปีนี้ตลาดหุ้นเวียดนามย่อตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกประมาณ 20% ในครึ่งปีแรก เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนในประเทศที่ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายใหม่ที่เทขายหุ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูก Force Sell โดยที่นักลงทุนต่างชาติยังเป็นผู้ซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง โดย ณ ปัจจุบัน หุ้นเวียดนามซื้อขายในระดับราคาที่ต่ำมาก โดยมี Fwd P/E เพียง 11.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 15.9 เท่า

ในฝั่งของอินโดนีเซีย มีการเติบโตอย่างโดดเด่นเช่นกัน โดย GDP ไตรมาส 2 ปี 2022 นี้ อยู่ที่ 5.44% และ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า ปี 2022 นี้ GDP อินโดนีเซียจะอยู่ที่ 5.4% และ ปี 2023 จะเติบโตได้ถึง 6%

จุดเด่นของอินโดนีเซีย คือความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ถ่านหิน นิกเกิล น้ำมันปาล์ม ทำให้อินโดนีเซียเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกในสินค้ากลุ่มนี้ อย่างไรก็ดี อินโดนีเซียวางแผนปรับกลยุทธ์ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อที่จะเปลี่ยนจากการพึ่งพิงการส่งออกมาเป็นการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเพื่อให้มาตั้งฐานการผลิตในอินโดนีเซียแทน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องใช้นิกเกิลเป็นแร่ธาตุสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตแร่นิกเกิลมากที่สุดในโลก เราจะเริ่มเห็นบริษัทต่าง ๆ เข้าไปลงทุนและตั้งฐานการผลิตในอินโดนีเซียมากขึ้น เช่น TOYOTA Motor, Hyundai Motor  และล่าสุด TESLA ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาทำข้อตกลงเพื่อที่จะตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในอินโดนีเซีย

ในแง่ของตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ยังถือว่า Valutaion ไม่แพง โดยปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ Fwd P/E 16.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 17 เท่า  ในขณะที่ Bloomberg Consensus ประเมินอัตราการเติบโตของกำไร (EPS Growth) ของตลาดหุ้นอินโดนีเซียอยู่ที่ +58%YoY ในปี 2022 และ +12.7%YoY ในปี 2023

ด้วยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น นโยบายภาครัฐที่เป็นไปในทิศทางผ่อนคลาย และระดับราคาหุ้นที่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว ทำให้ทั้งเวียดนามและอินโดนีเซียกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่คาดว่าจะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนได้อย่างต่อเนื่องและคาดว่าการลงทุนในตลาดหุ้นของทั้ง 2 ประเทศนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในกับพอร์ตลงทุนได้เช่นกัน

==============================

บทความโดย : ณัฐพร ธรวงศ์ธวัช AFPT

Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

เผยแพร่ครั้งแรกที่คอลัมน์ Financial Planning กรุงเทพธุรกิจ

บทความล่าสุด

แจกทริกตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ปังไม่พังตั้งแต่ต้นปี

เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ หลายคนมักตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการเงิน เช่น การออมเงิน ลดหนี้ หรือเพิ่มรายได้ แต่บ่อยครั้งที่เป้าหมายเหล่านี้มักไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ข้อมูลจาก Forbes พบว่ากว่า 80% ของการตั้งเป้าหมายช่วงปีใหม่มักล้มเหลวภายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยทั้ง การตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน ขาดการวางแผนที่ดี และการลงมือทำที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถจัดการได้ถ้ารู้จักหลัก S.M.A.R.T. รวมถึงเพิ่ม 3 ทริกที่จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จของเป้าหมาย

อ่านต่อ >>

ญี่ปุ่น ฟื้นจากเงินฝืดสู่เงินเฟ้อ สร้างภูมิต้านทานสงครามการค้า

เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในปี 2025 พร้อมกับการพลิกจากภาวะเงินฝืดสู่ภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ผลกระทบจากประเด็นการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ เป็นไปอย่างจำกัด จึงทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสจะเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีและมีความแข็งแกร่งในปี 2025 นี้

อ่านต่อ >>

ธ.ทิสโก้ เปิด 3 กลุ่มสินทรัพย์ โอกาสสร้างกำไรทะยาน ! ปี 68

Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ คาดนโยบาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนุน 3 กลุ่มสินทรัพย์ราคาทะยาน ได้แก่ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย บริการการสื่อสาร และกลุ่มสถาบันการเงิน 2. กลุ่มประเทศที่ราคาหุ้นขึ้นช่วงสงครามการค้า คือ อินเดีย เวียดนาม และญี่ปุ่น และ 3. กลุ่มสินทรัพย์ได้ประโยชน์จากนโยบายการเงิน – การคลัง คือ ตราสารหนี้ รีท และทองคำ พร้อมชี้ราคาหุ้นจีน น้ำมัน และพลังงานจ่อดิ่ง แนะหลีกเลี่ยงลงทุน

อ่านต่อ >>

แจกทริกตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ปังไม่พังตั้งแต่ต้นปี

เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ หลายคนมักตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการเงิน เช่น การออมเงิน ลดหนี้ หรือเพิ่มรายได้ แต่บ่อยครั้งที่เป้าหมายเหล่านี้มักไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ข้อมูลจาก Forbes พบว่ากว่า 80% ของการตั้งเป้าหมายช่วงปีใหม่มักล้มเหลวภายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยทั้ง การตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน ขาดการวางแผนที่ดี และการลงมือทำที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถจัดการได้ถ้ารู้จักหลัก S.M.A.R.T. รวมถึงเพิ่ม 3 ทริกที่จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จของเป้าหมาย

อ่านต่อ >>

ญี่ปุ่น ฟื้นจากเงินฝืดสู่เงินเฟ้อ สร้างภูมิต้านทานสงครามการค้า

เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในปี 2025 พร้อมกับการพลิกจากภาวะเงินฝืดสู่ภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ผลกระทบจากประเด็นการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ เป็นไปอย่างจำกัด จึงทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสจะเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีและมีความแข็งแกร่งในปี 2025 นี้

อ่านต่อ >>

ธ.ทิสโก้ เปิด 3 กลุ่มสินทรัพย์ โอกาสสร้างกำไรทะยาน ! ปี 68

Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ คาดนโยบาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนุน 3 กลุ่มสินทรัพย์ราคาทะยาน ได้แก่ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย บริการการสื่อสาร และกลุ่มสถาบันการเงิน 2. กลุ่มประเทศที่ราคาหุ้นขึ้นช่วงสงครามการค้า คือ อินเดีย เวียดนาม และญี่ปุ่น และ 3. กลุ่มสินทรัพย์ได้ประโยชน์จากนโยบายการเงิน – การคลัง คือ ตราสารหนี้ รีท และทองคำ พร้อมชี้ราคาหุ้นจีน น้ำมัน และพลังงานจ่อดิ่ง แนะหลีกเลี่ยงลงทุน

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า