ท่องเที่ยวไทยมุมมองใหม่ กับ 4 ประสบการณ์ไพรเวตทริปสุดหรู
นิตยสาร Trust ฉบับที่ 62 | คอลัมน์ Going Away
ในครั้งหนึ่งของชีวิตกับการเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบไพรเวตทริป ที่จะมอบความสุขสุดเอ็กซ์คลูซีฟภายใต้บริการพิเศษเพื่อเป็นกำไรให้กับชีวิต และนี่คือ 4 ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่อยากให้คุณได้สัมผัสสักครั้งกับการไปชื่นชมธรรมชาติที่สวยงามของเมืองไทย ทั้งภูเขา น้ำตก ทะเล ในมุมมองที่แตกต่างกว่าเดิม หรูหรากว่าเดิม และประทับใจยิ่งกว่าเดิม
ขึ้นบอลลูนชมทิวทัศน์ 360 องศา ม่วนใจเหนือน่านฟ้าเชียงราย
หากแอ่วเหนือทีไรก็จะมีชื่อ “เชียงราย” เป็นอันดับต้น ๆ อยู่ในลิสต์เสมอ เพราะจังหวัดเหนือสุดแดนสยามแห่งนี้โอบล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งภูเขา น้ำตก และจุดชมวิวต่าง ๆ มากมาย ซึ่งหากได้สัมผัสความสวยงามบนภาคพื้นดินแล้ว ก็ต้องไม่พลาดกับประสบการณ์บนฟากฟ้าที่จะพาไปเที่ยวเชียงรายในมุมมองใหม่ที่ม่วนใจยิ่งกว่าเดิม กับการล่องบอลลูนชมวิวสุดตระการตา
สำหรับการเดินทางด้วยบอลลูน (Hot Air Balloon) นั้น บอกได้เลยว่าเต็มไปด้วยประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นการล่องลอยบนความสูงกว่า 2,000 ฟุต การเดินทางที่มีกระแสลมเป็นผู้กำหนดทิศทาง และการได้ชมวิวเมืองเชียงรายจากมุมสูงแบบ Bird’s Eyes View 360 องศา หากล่องลอยในยามเช้าจะได้ต้อนรับวันใหม่ไปกับไออุ่นของแสงอาทิตย์ ณ เส้นสุดขอบฟ้าที่ตัดกับแนวเทือกเขาสีเขียวชอุ่มในเมืองเชียงราย โดยมีวิวผืนนาขั้นบันไดอันกว้างใหญ่อยู่เบื้องล่าง แต่หากเป็นช่วงปลายปีถึงต้นปีก็จะเต็มไปด้วยนาข้าวสีทองอร่ามที่กำลังใกล้ถึงฤดูแห่งการเก็บเกี่ยว หรือในบางวันเส้นทางของบอลลูนก็อาจจะเลื่อนผ่านตัวเมืองและสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันทรงคุณค่า อย่างพระธาตุดอยตุง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงราย แต่หากล่องลอยในยามเย็นจะได้สัมผัสแสงทองสุกสว่างของพระอาทิตย์ตกดินที่งดงามไม่แพ้ช่วงเช้า เรียกได้ว่า เจ้าบอลลูนนี้จะพาล่องลอยไปสัมผัสไอเย็นและอากาศอันบริสุทธิ์ พร้อมดื่มด่ำไปกับธรรมชาติของเมืองเชียงรายในมุมมองที่สวยงามแปลกตาตลอดเวลา 45 นาที
การขึ้นบอลลูนยักษ์หลากสีสันเพื่อชมวิวเมืองเชียงรายนี้ หากเป็นบริการของ Balloon Adventure Thailand ซึ่งเป็นบริษัทแห่งเดียวในประเทศไทยที่ทำบอลลูนมากว่า 17 ปีนั้น จะเริ่มออกเดินทางโบยบินที่สิงห์ปาร์ค (Singha Park) แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และล่องลอยไปเรื่อย ๆ จนครบกำหนดเวลา โดยลงจอดในแต่ละทริปไม่ซ้ำกัน ขึ้นอยู่กับทิศทางลมจะพาไปทางไหน และทุกครั้งหลังจากที่บอลลูนลงจอด นอกจากจะได้รับใบประกาศนียบัตรเก็บไว้เป็นความทรงจำแล้ว ยังได้บรรยากาศของการเฉลิมฉลองอย่างสนุกสนานไปกับแชมเปญชั้นยอดด้วย
Balloon Adventure Thailand
+ Private Flight มีขนาดบอลลูนตั้งแต่ 2-8 ท่าน
ราคาปกติ 22,000 (สำหรับ 2 ท่านแรก)
(ท่านที่ 3-8 ในตะกร้าเดียวกันราคา 7,990 บาทต่อท่าน)
+ Share Basket Flight (บินร่วมกับท่านอื่น ๆ)
ราคาปกติ รอบ Sunrise ราคา 8,990 บาทต่อท่าน / รอบ Sunset ราคา 9,990 บาทต่อท่าน
+ ราคาพิเศษสำหรับลูกค้า TISCO Wealth เพียงแสดง EDM (Electronic Direct Mail) เมื่อจองบอลลูน
– Private Flight เหลือเพียง 20,000 บาท (สำหรับ 2 ท่านแรก) ท่านที่ 3-8 จากราคา 7,990 เหลือเพียง 6,990 บาทต่อท่าน
– Share Basket Flight รอบ Sunrise เหลือเพียง 7,990 บาทต่อท่าน รอบ Sunset เหลือเพียง 8,990 บาทต่อท่าน
– ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ถึง 20 กุมภาพันธ์ 2566
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 08 9685 1188
เว็บไซต์: www.balloonadventurethailand.com
เฟซบุ๊ก: Air Balloon Thailand
นอนโดมบับเบิ้ลใสแสนโอ่อ่า กลางป่าธรรมชาติของแคมป์ช้าง ณ ดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ
ณ เนินเขาท่ามกลางธรรมชาติที่สามารถมองเห็นดินแดนสามเหลี่ยมทองคำอันเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างไทย (เชียงราย) ลาว และเมียนมา ที่โดดเด่นด้วยวิวแม่น้ำโขงอันงดงามนั้น มีโรงแรมอนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท (Anantara Golden Triangle Elephant Camp & Resort) ซ่อนตัวรอให้นักท่องเที่ยวมาเยือน พร้อมสัมผัสกับประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบหรูหราและการพักผ่อนแบบใหม่ที่ใกล้ชิดธรรมชาติกว่าเดิม
อีกหนึ่งความโดดเด่นของโรงแรมแห่งนี้คือ การมีห้องพักสุดหรูให้เลือกหลากหลายแบบ โดยหนึ่งในห้องพักยอดนิยมนั้นเป็นห้องพักที่ถูกออกแบบให้เป็นโดมโปร่งใส หรือที่เรียกว่า Jungle Bubble Lodge ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบได้แบบ 360 องศา ในบรรยากาศอันเงียบสงบและงดงามของธรรมชาติได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของป่าแห่งนี้ ทั้งการดื่มด่ำไปกับบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน ตลอดจนนอนชมดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้ายามค่ำคืนได้อย่างเต็มอิ่ม โดย Jungle Bubble Lodge นั้นตั้งอยู่บนเทอเรสสุดกว้างขวาง พร้อมชุดโต๊ะอาหารริมระเบียง ภายในถูกแบ่งเป็นสัดส่วนให้มีทั้งพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน ซึ่งมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
และไฮไลต์สำคัญ คือการได้สัมผัสวิถีชีวิตของโขลงช้างที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีกิจกรรมในแคมป์ช้าง ซึ่งเป็นปางช้างที่อุปการะช่วยเหลือช้างจากทั่วประเทศไทย โดยมูลนิธิช้างเอเชียสามเหลี่ยมทองคำ (Golden Triangle Asian Elephant Foundation: GTAEF) ที่มีทั้งการเดินป่ากับช้าง เรียนรู้วิถีชีวิตช้าง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ ล่องเรือตามแม่น้ำโขง ผ่อนคลายไปกับสปาในป่า และปรุงอาหารท้องถิ่นด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นต้น
โรงแรมอนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท
+ ส่วนลด 20% อาหาร เครื่องดื่ม และบริการสปา สำหรับลูกค้า TISCO Wealth เพียงแสดง EDM (Electronic Direct Mail) เมื่อเข้าพัก
+ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2566
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 5378 4084
เว็บไซต์: www.anantara.com
เฟซบุ๊ก: Anantara Golden Triangle Elephant Camp & Resort
ล่องเรือหรูส่วนตัว ย้อนรอยกรุงเก่า ณ อยุธยา ในบรรยากาศสุดคลาสสิก
หากนึกถึงทริปไหว้พระ 9 วัด เชื่อว่าอยุธยาต้องเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลาย ๆ คนนึกถึง และเคยไปกันมาแล้ว แต่ทริปอยุธยาในครั้งนี้จะแตกต่างออกไปจากเดิม เพราะจะพาไปย้อนรอยประวัติศาสตร์สู่อาณาจักรกรุงศรีอยุธยาในเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยากับประสบการณ์ล่องเรือหรูสุดเอ็กซ์คลูซีฟและเป็นส่วนตัว
ทริปล่องเรือเพื่อย้อนรอยกรุงเก่าของลอย เพลา โวยาจส์ (Loy Pela Voyages) นั้น มีให้นักเดินทางได้เลือก 2 โปรแกรม คือ โปรแกรม 2 วัน 1 คืน และ 3 วัน 2 คืน ซึ่งจะเดินทางล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาให้ได้อิ่มเอมไปกับบรรยากาศสองข้างทางที่มีเรื่องราวจากอดีตสู่ปัจจุบัน โดยแต่ละโปรแกรมจะมีเส้นทางการเดินเรือและกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงจุดแวะพักระหว่างทางให้ได้สัมผัสประสบการณ์หลากหลายรูปแบบ อาทิ ปั่นจักรยานท่ามกลางธรรมชาติรับอากาศบริสุทธิ์ที่บางกระเจ้า แวะชมและสักการะวัดและอารามหลวงอันงดงามมากมาย อาทิ วัดอรุณราชวราราม วัดพนัญเชิง เป็นต้น ตลอดจนเจาะลึกอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลก และชมบรรยากาศยามค่ำคืนอันงดงามของวัดนิเวศน์ธรรมประวัติในเขตพระราชวังบางปะอิน ส่วนในยามเช้าออกมาตักบาตรเสริมสิริมงคล พร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้นอันสวยงามจากขอบระเบียงเรือ ยามบ่ายนั่งจิบน้ำชาเพลิน ๆ กลางแม่น้ำเจ้าพระยาในบรรยากาศสุดชิล
สำหรับเรือในทริปนี้จะมีให้เลือก 2 ลำ คือ “ลอยดรีม (Loy Dream)” เรือ 2 ห้องนอน ที่รองรับนักเดินทางได้สูงสุด 4 ท่าน และ “ลอย ริเวอร์ สอง (Loy River Song)” เรือ 4 ห้องนอน ที่รองรับนักเดินทางได้สูงสุด 8 ท่าน โดยทั้ง 2 ลำ เป็นเรือ 2 ชั้น ที่ถูกตกแต่งและออกแบบในสไตล์ไทยโบราณที่ผสานความทันสมัยไว้อย่างมีระดับ ด้วยของประดับโบราณและผ้าไหมทอมืออันวิจิตรบรรจง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของไทยในอดีต ภายในถูกแบ่งเป็นสัดส่วน ประกอบด้วย ห้องนอนขนาดกว้างขวาง มาพร้อมกับเตียงขนาดคิงไซส์และห้องน้ำในตัว พื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำกิจกรรมระหว่างล่องลำน้ำ อาทิ โยคะยามเช้า เล่นเกมกระดานสุดคลาสสิก การแสดงรำมวยไทย เป็นต้น อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตลอดจนบริการระดับ 5 ดาว ทั้งบัตเลอร์ที่จะคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง อาหารมื้อพิเศษที่รังสรรค์โดยเชฟผู้มากประสบการณ์ และไกด์นำเที่ยวประจำเรือที่จะคอยบอกเล่าเรื่องราวและความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นในเชิงลึกให้ได้ฟังกันอย่างเต็มอิ่ม
Loy Pela Voyages
+ แพ็กเกจ 3 วัน 2 คืน เริ่มต้นที่ 208,250 บาทต่อห้อง (สำหรับผู้ใหญ่ 2 คน)
+ แพ็กเกจ 2 วัน 1 คืน ราคา 95,000 บาทต่อห้อง (สำหรับผู้ใหญ่ 2 คน)
+ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า TISCO Wealth เพียงแสดง EDM (Electronic Direct Mail) เมื่อจองทริปพิเศษ 2 วัน 1 คืน ลอย เพลา โวยาจส์ มอบ VIP Amenities พร้อมแชมเปญ
+ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2566
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2476 0022
เว็บไซต์: www.loypelavoyages.com
เฟซบุ๊ก: loypelavoyages
ล่องเรือยอร์ชสุดหรูเที่ยวภูเก็ต ดำน้ำ ดูปะการัง ท่ามกลางสีครามของทะเลอันดามัน
ภูเก็ตหลัง COVID-19 เป็นที่เลื่องลือว่างดงามกว่าที่เคย และทริปนี้จะพาไปตกหลุมรักความงดงามของภูเก็ตยิ่งขึ้น ด้วยประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟบนเรือยอร์ชส่วนตัว ที่จะได้เพลิดเพลินไปกับการล่องเรือใต้แสงแดด ฟังเสียงคลื่น สนุกสนานไปกับเสียงเพลง ตลอดจนผจญภัยไปกับกีฬาทางน้ำ ตกปลา ปาร์ตี้บาร์บีคิว ปิกนิกบนชายหาดที่เป็นส่วนตัว และอีกหลากหลายกิจกรรมที่น่าสนใจ กับ Blue Voyage Thailand ผู้ให้บริการเรือยอร์ชระดับ 5 ดาว ที่นำเข้าเรือจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐานระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศส และได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก SHA โดยเรือยอร์ชของที่นี่มีให้เลือกตั้งแต่เรือ Blue Lagoon ที่รองรับได้สูงสุด 10 คน ไปจนถึงเรือ For Your Eyes Only ที่รองรับได้สูงสุดถึง 30 คน ภายในเรือแต่ละลำนั้นโดดเด่นด้วยความหรูหราและเป็นส่วนตัว เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน รวมถึงบริการแบบเต็มรูปแบบราวกับอยู่ในโรงแรมระดับห้าดาวลอยน้ำ ทั้งบัตเลอร์ส่วนตัวที่จะคอยดูแลตลอดการเดินทาง กัปตันและลูกเรือที่มากประสบการณ์
สำหรับโปรแกรมการเดินทางนั้น มีให้เลือกทั้งแบบครึ่งวัน เต็มวัน และทริปค้างคืน ซึ่งจะพาไปสัมผัสความมหัศจรรย์ ณ เกาะอันสวยงามที่มีชื่อเสียงซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ภูเก็ตมากมาย อาทิ เกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ต มัลดีฟส์แห่งอันดามัน ที่อาจจะได้เห็นโลมาขึ้นมาอวดโฉม เกาะสิมิลัน จ.พังงา เกาะสวรรค์ของนักดำน้ำ ที่อาจจะได้พบกระเบนราหูหรือฉลามวาฬโผล่ขึ้นมาทักทาย เกาะพีพี จ.กระบี่ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งสามารถดำน้ำชมความสวยงามและสมบูรณ์ของแนวปะการังได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก และอีกหลากหลายเกาะอันน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็น เกาะเฮ เกาะราชาน้อย เกาะไข่ เป็นต้น ซึ่งสามารถสร้างสรรค์ปรับแต่งบริการและประสบการณ์ได้ตามความต้องการ โดยช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาเที่ยวภูเก็ตมากที่สุด คือ ช่วงเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤษภาคม เพราะเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบ น้ำใสจนสามารถมองเห็นปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลได้อย่างง่ายดาย
Blue Voyage Thailand
+ ทริปปกติ (Blue Lagoon 42ft. AC) รองรับได้ 28 ท่าน
– ครึ่งวันช่วงเช้า ราคา 29,900 บาท
ครึ่งวันช่วงบ่าย ราคา 35,000 บาท (สำหรับ 1-10 คน) *Extra ท่านละ 1,000 บาท
– เต็มวัน (8 ชั่วโมง) ราคา 45,000 บาท
เต็มวัน (12 ชั่วโมง) ราคา 65,000 บาท (สำหรับ 1 – 10 คน) *Extra ท่านละ 1,000 บาท
– ทริป 2 วัน 1 คืน ราคา 150,000 บาท (สำหรับ 4 ท่าน 2 ห้องนอน รวมอาหาร 2 มื้อ
+ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า TISCO Wealth เพียงแสดง EDM (Electronic Direct Mail) มอบ Afternoon Tea เซตพิเศษเพิ่มอีก 1 เซต (ปกติเสิร์ฟ Afternoon Tea 1 เซตต่อเที่ยวเท่านั้น)
+ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2566
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2254 8908-9 / 08 6826 5656 / 08 6424 4245
เว็บไซต์: www.bluevoyagethailand.com
เฟซบุ๊ก: Blue Voyage Yacht Charter
