ล่องลำน้ำโขง...ความงดงามจากเหนือสู่อีสาน ‘เชียงราย เลย หนองคาย และอุบลราชธานี’
นิตยสาร Trust ฉบับที่ 70 | คอลัมน์ Going Away
‘โขง’ สายน้ำแห่งชีวิตที่เริ่มต้นไหลผ่านจากประเทศจีนทอดยาวมาถึงลำน้ำโขงตอนล่างที่ครอบคลุมใน 4 ประเทศ คือ ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ด้วยลักษณะสำคัญของแม่น้ำโขงที่มีตลิ่งสูงชันทั้งสองฟากฝั่ง ไหลเลี้ยวเลาะตามไหล่เขา พื้นแม่น้ำเป็นลานดินทราย มีเกาะแก่งน้อยใหญ่มากมายเรียงรายตลอดสาย และด้วยความงดงามบรรจงสร้างจากธรรมชาติที่อยู่เคียงคู่มนต์เสน่ห์แห่งวิถีชีวิตริมโขงมาอย่างยาวนาน ทำให้ลำน้ำโขงติดอันดับท็อปลิสต์ของนักท่องเที่ยวทั้งสายรักธรรมชาติ สาย Adventure สายสโลว์ไลฟ์ และสาย Localism ที่หลงใหลวิถีถิ่นพื้นเมืองของชุมชน
คอลัมน์ Going Away ฉบับนี้ ชวนเที่ยวล่องลำน้ำโขงผ่าน 4 เมืองรอง ‘เชียงราย เลย หนองคาย อุบลราชธานี’ ที่ต้องไปลอง! สัมผัสประสบการณ์ใหม่จากภาคเหนือสู่ภาคอีสานที่มีจุดหมายปลายทาง ‘ลำน้ำโขง’ ที่สวยน่าทึ่งทุกพิกัด เพราะสีของสายน้ำลำโขงในแต่ละฤดูกาลแตกต่างกัน เปลี่ยนไปตามปรากฏการณ์ของธรรมชาติ อาทิ สีของน้ำในหน้าฝนก็จะออกแดง ๆ ขุ่น ๆ ส่วนหน้าแล้งต้นปีไปจนถึงกลางปี น้ำก็จะเป็นสีเขียว ๆ ใส ๆ และนี่เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่สร้างความสวยจนใจละลายของมหานทีสายนี้แก่นักท่องเที่ยวไปตลอดทั้งปี
พิกัดเชียงราย... ชมวิว ‘โขง’ พรมแดนไทย-ลาว-เมียนมา
ลำน้ำโขงไหลผ่านจังหวัดเชียงรายในดินแดน 3 อำเภอ ได้แก่ เชียงแสน เชียงของ และเวียงแก่นเป็นอำเภอสุดเขตแม่น้ำโขงของเชียงราย เริ่มต้นล่องน้ำโขงจากจังหวัดเชียงราย ดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ ในอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เป็นจุดที่แม่น้ำรวกไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง มองเห็นสันดอนทรายและพื้นที่รอยต่อ 3 ประเทศ คือ ไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวหรือ สปป.ลาว (แขวงบ่อแก้ว) เมียนมา (ท่าขี้เหล็ก, รัฐฉาน) มีลักษณะเป็นพื้นที่สามเหลี่ยมบรรจบกัน โดยจุดชมวิวบริเวณสามเหลี่ยมทองคำเป็นที่ประดิษฐานพระเชียงแสนสี่แผ่นดิน (พระพุทธนวล้านตื้อ) สามารถขึ้นไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล และจุดไฮไลต์สัญลักษณ์ประตูสามเหลี่ยมทองคำมีลานระเบียงกว้างให้ยืนชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงอันงดงาม
นอกจากนี้ หากอยากล่องเรือหรือชมภูมิทัศน์ตามลำน้ำโขงหรือข้ามฝั่งไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านแบบ One Day Trip สามารถติดต่อเช่าเรือชาวบ้านในพื้นที่ก็จะได้อีกประสบการณ์จากทริปล่องเรือชิลล์ ๆ สบาย ๆ มีไกด์เล่าเรื่องราวสองฟากฝั่งโขงตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเริ่มจากทางฝั่งเมียนมา แล้ววนกลับมาทางฝั่งลาว มีพาแวะไปตลาดลาวสวนสาธารณะ 30 นาที โดยขึ้นฝั่งซื้อตั๋วได้เลย ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต
จากนั้นขับรถจากเชียงแสนเลียบโขง มุ่งหน้ามา ‘เชียงของ’ เมืองเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขงของเชียงรายที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว พร้อมมนต์เสน่ห์เรียบง่ายแบบเมืองเหนือ แนะนำเส้นทางถนนเลียบแม่น้ำโขงที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหนกับจุดชมวิว และอยากให้พักที่เชียงของสักคืน เพื่อตื่นเช้าสูดอากาศบริสุทธิ์ เห็นแสงแรกของวันสีเหลืองทองสะท้อนกับผิวน้ำ ตักบาตรริมโขง เสร็จแล้วหาเช่าจักรยานไฟฟ้าขี่เล่นบนเส้นทางออกกำลังกายเลียบแม่น้ำโขง สัมผัสวิถีถิ่นชุมชน และที่นี่มีจุดชมวิวชื่อว่า ‘ท่าเผาถ่าน’ เป็นลานกว้างมีโขดหินเรียงราย สำหรับการมาเยือนเชียงของเหมือนหยุดเวลาไว้กับความเงียบสงบ สัมผัสวิถีชีวิต
ทริปลัดเลาะชมความงามลำน้ำโขงในเชียงราย มีแหล่งท่องเที่ยวนอกสายตาที่ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวรู้จักกันมากนัก ‘แก่งผาได’ แลนด์มาร์กสำคัญของอำเภอเวียงแก่น เมืองรองของเชียงของที่ตั้งอยู่สุดเขตแม่น้ำโขงของเชียงราย และเมื่อขับรถไปก่อนถึงแก่งผาไดต้องผ่าน ‘แก่งก้อนคำ’ จุดชมวิวแม่น้ำโขงอีกแห่ง ที่อยากให้แวะเข้าไปชมความงดงามตระการของเกาะแก่งที่โผล่ขึ้นมากลางน้ำ โดยนักท่องเที่ยวสามารถยลโฉมเกาะแก่งเหล่านี้ในช่วงหลังฤดูฝนไปแล้ว
จากนั้นไปกันต่อ ณ จุดหมาย ‘แก่งผาได’ ดินแดนสุดเขตประเทศไทย ณ หมู่บ้านห้วยลึก ซึ่งเป็นหมู่บ้านสุดท้ายปลายน้ำโขง อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย และเมื่อเข้าไปสัมผัสความงามเบื้องหน้า “แก่งผาได” ภาพแม่น้ำโขงที่ไหลล่องผ่านเกาะแก่งน้อยใหญ่และเนินทรายสีขาวที่บ้านห้วยเอียนสวยตะลึง ก่อนสายน้ำจะเลี้ยววกเข้าไปในเขต สปป.ลาว ฝั่งตรงข้าม ณ เมืองผาอุดม แขวงบ่อแก้ว ผ่านเมืองปากทา จากนั้นไหลผ่านปากแบ่ง แขวงอุดมไซ ผ่านเมืองไชยะบุรี เมืองหลวงพระบาง และไหลเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้งที่จังหวัดเลย
เชียงคาน...วิถีแห่งเมืองสโลว์ไลฟ์ บ้านเรือนเก่าแก่สุดคลาสสิกริมฝั่งลำน้ำโขง
อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เป็นอีกเมืองเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขงที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบประเพณีไทย และวิถีชีวิตเรียบง่าย มีแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์ชวนให้หลงรักในมนต์เสน่ห์ของวิวแม่น้ำโขงที่ ‘แก่งคุดคู้’ ด้วย Landscape งดงามสุดสายตา ยิ่งหากไปช่วงต้นปีที่เป็นช่วงน้ำลด ยิ่งเห็นเกาะแก่งชัดเจนจนบางวันสามารถเดินลงไปหาดทรายเพื่อใกล้ชิดริมแม่โขงได้ด้วย ซึ่งบริเวณหาดยังมีหินก้อนเล็กก้อนใหญ่กลม ๆ วางเรียงรายอย่างสวยงาม
เพราะ ‘เชียงคาน’ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งวิถีสโลว์ไลฟ์ เลยอยากให้ใช้เวลาที่นี่แบบช้า ๆ ไม่เร่งรีบ อิ่มเอมไปกับบรรยากาศของธรรมชาติและวิถีชีวิตท้องถิ่นของชาวชุมชนที่เรียบง่ายเต็มไปด้วยมิตรภาพ และ ‘ปั่นจักรยาน’ (จักรยานหาเช่าได้ตามร้านค้าในละแวกนั้น) เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกพาตัวเองไปแวะเวียนทุกซอกทุกมุมในเมืองด้วยการปั่นเจ้าสองล้อ โดยเฉพาะถนนสายเล็ก ๆ เลียบริมแม่น้ำโขงเหมาะอย่างมากในการปั่นชิลล์ ๆ ในช่วงเวลายามเย็น อากาศไม่ร้อน รับลมเย็น ๆ จากแม่น้ำช่วยให้สดชื่น แต่ไฮไลต์อยู่ที่ช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ซึ่งส่องแสงสีทองกระทบแม่น้ำงดงามมาก
อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ของเมืองเชียงคานทรงเสน่ห์สุดคลาสสิก บ้านไม้ดั้งเดิมสามารถสร้างบรรยากาศย้อนยุคอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ โดยเฉพาะถนนคนเดินเชียงคาน (ถนนเลียบไปกับแม่น้ำโขงยาวประมาณ 1.2 กิโลเมตร) มีทั้งสินค้าพื้นเมืองให้เลือกซื้อหา อาหารท้องถิ่นให้ลิ้มลอง โดยวันเสาร์-อาทิตย์ มีพ่อค้าแม่ค้านำของมาขายกันคึกคักมากกว่าวันธรรมดา
สำหรับสายบุญสายธรรมะ อยากให้แวะไปวัดพระพุทธบาทภูควายเงิน ที่มีรอยพระพุทธบาทยาวประมาณ 120 เมตร กว้าง 65 เซนติเมตร ประดิษฐานบนหินลับมีด รวมไปถึงวัดพระใหญ่ภูคกงิ้ว (วัดพระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์) ประดิษฐานที่ภูฟ้า บ้านท่าดีหมี ที่นอกจากได้กราบไหว้เสริมสิริมงคลชีวิตแล้ว จากวัดยังสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงไหลมาบรรจบกัน และยังมองเห็นอาณาเขตชายแดนฝั่งไทย-ลาวด้วย
‘หนองคาย’ เมืองแห่งพญานาค ดินแดนเลียบแม่น้ำโขง
จังหวัดหนองคายน่าสนใจด้วยภูมิประเทศที่ทอดยาวตามลำน้ำโขง เป็นที่ราบสูงและภูเขาทางภาคอีสาน ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวทรงพลังมากมาย ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเมืองแห่งพญานาค ดินแดนประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคอาณาจักรขอม อาณาจักรล้านช้าง ที่เห็นได้จากโบราณสถานและวัดวาอารามมากมายที่ส่งต่อประวัติศาสตร์มาถึงคนรุ่นปัจจุบัน
เริ่มต้นยลโฉมวิวแม่น้ำโขง ณ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว (สะพานข้ามแม่น้ำโขง) แห่งแรกของไทย เชื่อมต่อระหว่างตำบลมีชัย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย กับเมืองหาดซายฟอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เราสามารถข้ามสะพานแห่งนี้เพื่อท่องเที่ยวในตัวเมืองเวียงจันทน์ หากมีพาสปอร์ตสามารถอยู่ได้ถึง 30 วัน และช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก มองจากฝั่งไทยบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว
หากอยากชมวิวแม่น้ำโขงแบบมุม Top View ต้องเดินทางไปที่ ‘วัดผาตากเสื้อ’ บนภูเขาสูงท่ามกลางธรรมชาติสุดสงบร่มรื่น โดดเด่นด้วยบันไดพญานาคและพระอุโบสถสีเหลืองทองตัดกับหลังคาสีแดง ภูมิทัศน์โดยรอบอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ สามารถเดินลัดเลาะหน้าผาเพื่อชมวิวแม่น้ำโขงเบื้องล่าง มีไฮไลต์เป็นสกายวอร์กกระจกใส ลักษณะโค้งวนยื่นออกไปจากเนินหน้าผา จุดชมวิวที่มองเห็นธรรมชาติโอบกอดแม่น้ำโขงไว้อย่างงดงาม ว่ากันว่าช่วงที่วิวแม่น้ำโขงสวยที่สุดจากจุดนี้ คือ หน้าหนาว ที่มีทะเลหมอกหนานุ่มกระจายไปทั่วสายตาราวกับมายืนอยู่ท่ามกลางก้อนเมฆ โดยสายหมอกบดบังวิวแม่น้ำโขงเบื้องล่างไปบ้าง แต่เป็นความงามที่สร้างสรรค์จากธรรมชาติ จึงให้คะแนนความประทับใจเต็มร้อยไม่แพ้กัน
นอกจากนี้ ยังมี ‘ภูห้วยอีสัน’ เป็นอีกจุดชมทะเลหมอกและวิวของแม่น้ำโขงบนเนินเขา เป็นสถานที่ Unseen อีกแห่งของหนองคายที่นักท่องเที่ยวนิยมนั่งรถแต๋นของชาวบ้านมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และมาชมทะเลหมอกช่วงปลายฝนต้นหนาวของปี ภาพเบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยไอหมอกทั่วบริเวณพร้อมวิวภูเขาสลับซับซ้อนและฉากหลังวิวแม่น้ำโขง กลายเป็นภาพอันแสนงดงาม (รถอีแต๋นของชาวบ้านรับ-ส่งนักท่องเที่ยวขึ้นลงแค่เวลา 08.00 น.) อยากชมวิวทะเลหมอกในฉากทัศน์แม่น้ำโขงสวยจึ้ง ก็ต้องยอมตื่นเช้ามาลุยกันหน่อย
เช็กอินเมืองอุบลราชธานี ลัดเลาะแม่น้ำโขง เที่ยวเกาะแก่งหิน
‘อุบลราชธานี’ เป็นจังหวัดสุดท้ายของไทยที่สายน้ำโขงสิ้นสุดลง ณ อำเภอโขงเจียม และเต็มไปด้วย Unseen ธรรมชาติหลายแห่ง เริ่มที่ความมหัศจรรย์เมืองหินแห่งสามพันโบก สวย…อึ้ง…ทึ่ง… และเป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวของอุบลราชธานีที่ต้องมาเยือน โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน-มิถุนายนของทุกปี ซึ่งสายน้ำในแม่น้ำโขงลดลงจนเผยให้เห็นเกาะแก่งหินที่ถูกกระแสน้ำกัดกร่อนจนเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ เป็นอาณาบริเวณกว้างไกลสุดสายตา
‘สามพันโบก’ ถูกเปรียบเทียบเป็น ‘แกรนด์แคนยอนเมืองไทย’ ซึ่งจะเดินทางมาถึงสามพันโบกอย่างใกล้ชิดได้ ต้องล่องเรือพาลัดเลาะไปยังจุดสำคัญต่าง ๆ โดยสามารถนั่งเรือชมวิวในระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร เริ่มที่ ‘หาดสลึง’ ผ่าน ‘ปากบ้อง’ บริเวณที่แม่น้ำโขงถูกเทือกเขาเบียดเป็นลักษณะคอขวด ซึ่งส่วนแคบที่สุดวัดได้กว้างเพียง 56 เมตรเท่านั้น ใกล้กันมีเนินทะเลทรายเล็ก ๆ รู้จักกันในชื่อ ‘หาดหงส์’ เป็นทะเลทรายแห่งเดียวในประเทศไทย ทัศนียภาพสวยงามตระการตา ถ่ายรูปออกมาได้ฟีลเหมือนอยู่กลางทะเลทรายในต่างประเทศ
สำหรับจุดชมวิวแม่น้ำโขงในเมืองอุบลฯ มีหลายพิกัดให้ปักหมุด แต่ที่ติดท็อปลิสต์ต้องยกให้ ‘ผาแต้ม’ จุดชมวิวพระอาทิตย์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นจุดชมวิวริมหน้าผาที่ไม่ต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าหรือขึ้นยอดดอยสูง ๆ ให้ลำบาก โดยสามารถมองเห็นเบื้องล่างเป็นทิวเขาและผืนป่าอุดมสมบูรณ์ที่มีแม่น้ำโขงไหลผ่านเป็นทางยาว จากจุดนี้สามารถมองเห็นเทือกเขาของ สปป.ลาว แขวงจำปาสักอีกด้วย
ไปปักหมุดอีกแห่ง ณ จุดชมวิวแม่น้ำสองสี วัดโขงเจียม (จุดบรรจบแม่น้ำโขงและแม่น้ำมูลที่ทำให้เห็นสีของแม่น้ำทั้งสองสายที่ตัดกันอย่างชัดเจนที่เรียกว่า ‘โขงสีปูน มูลสีคราม’) ฤดูไฮไลต์ของจุดชมวิวแห่งนี้เป็นช่วงหน้าฝนเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ที่มีปริมาณน้ำมาก ร่มรื่นด้วยสีเขียวสบายตา แต่ทัศนียภาพหน้าร้อนก็สวยแปลกตา เพราะน้ำในแม่น้ำจะเหือดแห้งเผยให้เห็นสันทรายกลางแม่น้ำ
ลำน้ำโขงไหลผ่าน 6 จังหวัดของเมืองไทยจากเหนือสู่อีสาน โดยแต่ละพิกัดที่ถูกรังสรรค์ความงดงามจากธรรมชาติที่สร้างภูมิทัศน์ไม่เหมือนกันเลยอย่างน่าอัศจรรย์ ดังนั้น ไม่ว่าออกเดินทางปักหมุดชมวิว ณ พิกัดใด ก็สามารถ Feel In กับวิวทิวทัศน์สวยน่าทึ่งของแม่น้ำโขงในมุมมองที่แตกต่าง และได้ประสบการณ์การเดินทางที่ดีต่อใจไปตลอดทริปอย่างแน่นอน