หุ่นยนต์ The da Vinci Xi ช่วยผ่าตัด ผู้ป่วยเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว เพิ่มคุณภาพชีวิต นพ.ผดุงเกียรติ ตั้งพิรุฬห์ธรรม

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 70 | คอลัมน์ Health Focus

1 compress 99 scaled

หากเลือกได้คงไม่มีใครต้องการเข้ารับการผ่าตัด แต่ถ้าหากจำเป็นก็ขอเลือกแนวทางผ่าตัดที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด แผลเล็ก และหายไวที่สุด ซึ่งการผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์เป็นตัวช่วย กำลังเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ป่วย

    จากวิวัฒนาการของเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวล้ำไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดพัฒนาการของหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดออกมาถึงรุ่น The  da Vinci Xi ที่ได้รับการออกแบบเพื่อการผ่าตัดผ่านกล้องซึ่งควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ในรูปแบบแขนกล 4 แขน เคลื่อนไหวและหมุนได้รอบทิศทาง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผ่าตัดของศัลยแพทย์ให้เข้าถึงตำแหน่งที่ผ่าตัดยาก ซับซ้อน เข้าถึงยาก ลดผลข้างเคียง แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว (Minimal Invasive Surgery: MIS) ซึ่ง นพ.ผดุงเกียรติ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ศัลยแพทย์ทรวงอก โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ แพทย์ผู้ชำนาญการการผ่าตัดโรคเกี่ยวกับอวัยวะในช่องอกทุกส่วน โดยเฉพาะมะเร็งปอด ซึ่งเป็นมะเร็งที่คนไทยเป็นกันมากที่สุดอันดับ 2 มีประสบการณ์ใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดนี้มากกว่า 90 เคส ได้อธิบายประโยชน์ของการนำหุ่นยนต์มาช่วยผ่าตัดว่า เป็นการรวมข้อดีของการผ่าตัดแบบเปิด และการผ่าตัดแบบส่องกล้องเข้าด้วยกัน

    จากเดิมการผ่าตัดแบบเปิดจะได้แผลใหญ่ ใส่เครื่องถ่างซี่โครง ซึ่งทำให้หายช้า ผู้ป่วยจะเจ็บแผลมาก แต่มีข้อดีที่เข้าถึงอวัยวะที่ต้องได้รับการผ่าตัดได้สะดวก ขณะที่การผ่าตัดแบบส่องกล้อง ด้วยกล้องเล็กสุดขนาด 5 มม. จะมีแผลเล็ก การฟื้นตัวจะเร็ว แต่มีข้อจำกัดที่ใช้อุปกรณ์เส้นตรงเข้าไปผ่าตัด การขยับทำได้เฉพาะส่วนปลาย ต่างจากการใช้มือผ่าตัดแบบเปิด

การทำงานร่วมกันระหว่างศัลยแพทย์และหุ่นยนต์ผู้ช่วย

ระบบการทำงานของหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ

    1. ส่วนควบคุมการผ่าตัด (Surgeon Console) มีศัลยแพทย์ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของแขนกลทั้ง 4 แขนผ่านคอนโซลบังคับ เสมือนการผ่าตัดปกติ มีจอภาพ 3 มิติแสดงให้เห็นอวัยวะภายในอย่างละเอียด ระบบจะถ่ายทอดสัญญาณการเคลื่อนไหวจากมือศัลยแพทย์ไปยังแขนกลของหุ่นยนต์ที่ทำการผ่าตัดภายในร่างกายผู้ป่วย หุ่นยนต์ผ่าตัดจะตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของมือและนิ้วของศัลยแพทย์เท่านั้น

    2. แขนกลหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด (Patient Cart) ประกอบด้วยแขนกล 4 แขนที่หมุนได้อิสระรอบทิศทาง แขนหนึ่งถือกล้อง 3 มิติ เพื่อส่งภาพมาแสดงผลบนจอแบบ 3 มิติ อีก 3 แขนถืออุปกรณ์การผ่าตัดเข้าไปผ่าตัดในบริเวณที่ซับซ้อนและเข้าถึงยาก

    3. ระบบประมวลผลและควบคุมภาพ (Vision Cart) อุปกรณ์เสริมที่ช่วยแสดงภาพอวัยวะภายใน มีหน่วยประมวลผลและซอฟต์แวร์ที่ช่วยควบคุมและวิเคราะห์การทำงานของระบบ ทำให้ปรับค่าต่าง ๆ ได้สะดวกและเหมาะกับผู้ป่วย

    ทั้งนี้ ระหว่างการผ่าตัด ศัลยแพทย์จะสั่งการหุ่นยนต์จากบริเวณใกล้เคียง ไม่ได้ยืนข้างผู้ป่วยเหมือนการผ่าตัดแบบดั้งเดิม แต่มีแพทย์ผู้ช่วยผ่าตัดอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย เพื่อช่วยสลับเปลี่ยนอุปกรณ์ผ่าตัด

2 compress 102
3 compress 93

กลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น

    การนำหุ่นยนต์รุ่นนี้มาใช้แผลยังเล็กเช่นเดิม แต่อุปกรณ์ที่เข้าไปผ่าตัดจะเคลื่อนไหวได้มากกว่าข้อมือคน จากความสามารถในการหมุนได้มากกว่า 360 องศาของ Endo Wrist และตัวกล้องที่เปรียบเสมือนดวงตาของแพทย์เข้าไปอยู่ใกล้จุดผ่าตัด ได้ความคมชัดเหมือนส่องกล้อง ความละเอียดเหมือนการผ่าตัดแบบเปิด อุปกรณ์ที่เข้าผิวหนังจะขยับน้อยมาก จุดหมุนอยู่ชิดผนังช่องอก หรือช่องท้องที่จะผ่าตัด ทำให้การเกิดอุบัติเหตุต่ออวัยวะมีน้อยมากกว่าการใช้มือแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว กลับมาทำงานได้เร็วขึ้น

    ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัด หากไม่มีผลแทรกซ้อนใด ๆ วันรุ่งขึ้นหลังการผ่าตัดก็ลุกขึ้นเดินได้ ใช้เวลาเพียง 2-3 วันก็กลับบ้านได้ และ 1 สัปดาห์ก็กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ หรือกรณีผู้ป่วยมะเร็งหลังการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์จะทำให้เริ่มกระบวนการรักษาขั้นตอนต่อไปได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้ยาหรือฉายแสง เริ่มได้ภายในเวลา 2 หรือ 3 สัปดาห์ ลดลงจากการผ่าตัดแบบเปิดที่ต้องใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ประมาณ 3 เท่าตัว จึงจะเริ่มการรักษาขั้นตอนต่อไปได้

แนะนำผู้ป่วยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด

    ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการโรคทรวงอกยังบอกว่า ปัจจุบันกรณีผู้ป่วยมะเร็งปอดหรือเนื้องอกแนวกลางช่องอก จะแนะนำให้ใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดทุกคน จากผลประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ยกเว้นผู้ป่วยที่ติดปัญหาบางอย่าง เช่น กรณีที่ประกันไม่ครอบคลุมถึงการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ซึ่งจะต้องเลี่ยงไปใช้การผ่าตัดส่องกล้องธรรมดาแทน

    “ค่าใช้จ่ายของการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์จะต่างจากผ่าตัดส่องกล้อง 10-15% ก่อนจะผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ผมก็ส่องกล้องมาโดยตลอด ซึ่งผลออกมาดีอยู่แล้ว แต่ที่แตกต่างชัดเจนคือ ความละเอียดในการผ่าตัด” 

    นพ.ผดุงเกียรติชี้ความแตกต่าง 3 ประการคือ

1. ต่อมน้ำเหลือง สิ่งสำคัญที่สุดของการผ่าตัดมะเร็งคือ ต่อมน้ำเหลือง ที่ต้องนำออกมาให้หมด เพื่อกรณีที่ลามไปต่อมน้ำเหลืองแล้ว ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ซึ่งการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์จะทำได้ดีกว่าส่องกล้องธรรมดา

2. เส้นประสาท ซึ่งในช่องอกมีเส้นประสาทไปเลี้ยงหลอดลม และเนื้อปอดที่ทำให้เกิดอาการไอ จากความชัดเจนของกล้องที่มีมาก ทำให้มองเห็นได้ชัดมาก จึงผ่าตัดได้ละเอียด การเก็บเส้นประสาททำได้ดีกว่า

    “สอดคล้องไปกับยูโรวิทยาหรือทางเดินปัสสาวะ กรณีผ่าตัดต่อมลูกหมากจะเก็บเส้นประสาทในการกลั้นปัสสาวะได้ดีกว่า จากอดีตปัญหาของการผ่าตัดต่อมลูกหมากคือ กลั้นปัสสาวะไม่ได้”

3. เส้นเลือด ซึ่งปอดเป็นอวัยวะที่เชื่อมกับหัวใจโดยตรง เส้นเลือดที่ต้องผ่า ใหญ่กว่าบริเวณช่องท้องมาก การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์จะทำได้ละเอียดกว่า

การดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด

    เนื่องจากเป็นการผ่าตัดแผลเล็ก บอบช้ำน้อย ทำให้ฟื้นตัวเร็ว ดังนั้น ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์นี้ จะไม่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่แตกต่างจากการผ่าตัดแบบอื่น

    สิ่งพิเศษที่ผู้ป่วยจะได้รับหลังการผ่าตัดคือ จะมีอุปกรณ์บริหารปอดที่เป็นลูกบอล 3 ลูกให้ผู้ป่วยดูด เพื่อทำให้ปอดขยายได้ดีมากขึ้น

ผ่าตัดได้ทุกอวัยวะ

    การใช้งานไม่เพียงผ่าตัดโรคในช่องอกที่ประกอบด้วย หัวใจ ปอด หลอดลม หลอดอาหาร เส้นเลือดใหญ่เท่านั้น แต่สามารถนำไปใช้ผ่าตัดอวัยวะอื่น ๆ ในช่องท้อง ตลอดจนอวัยวะภายในของสตรีและบุรุษ รวมถึงหู คอ จมูก และไทรอยด์

    ทั้งนี้ ก่อนจะใช้งานหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ศัลยแพทย์ต้องชำนาญการในการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องของสาขานั้น ๆ และสอบเพิ่มเติมที่ประเทศซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นศูนย์กลาง ในประเทศสิงคโปร์หรือเกาหลีใต้ เพื่อวัดความพร้อมในการใช้หุ่นยนต์

ให้บริการในโรงพยาบาลเอกชน

    ในอดีตโรงพยาบาลกรุงเทพได้นำหุ่นยนต์เข้ามาใช้งานด้านการผ่าตัด แต่เลิกใช้ไป 20 กว่าปีที่แล้ว เพราะขอบเขตการใช้งานหุ่นยนต์ยังแคบมาก ก่อนจะจัดซื้อจัดหาหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด The da Vinci Xi  รุ่นนี้ที่เทคโนโลยีพัฒนาไปมากมาใช้ มีอุปกรณ์ให้เลือกมากขึ้นต่อการใช้งานผ่าตัดแต่ละชนิด จึงเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละกรณีมากขึ้น

    ปัจจุบัน พัฒนาการทางการแพทย์มีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะเพียงหุ่นยนต์ เช่น ยา อุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ และเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วย ทางโรงพยาบาลกรุงเทพพร้อมจะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ และดีที่สุดเท่าที่มี ณ เวลานั้น ๆ มาใช้งาน

JCI รับรองศูนย์ดูแลโรคมะเร็งปอด

    ในอดีตโรงพยาบาลกรุงเทพได้นำหุ่นยนต์เข้ามาใช้งานด้านการผ่าตัด แต่เลิกใช้ไป 20 กว่าปีที่แล้ว เพราะขอบเขตการใช้งานหุ่นยนต์ยังแคบมาก ก่อนจะจัดซื้อจัดหาหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด The da Vinci Xi  รุ่นนี้ที่เทคโนโลยีพัฒนาไปมากมาใช้ มีอุปกรณ์ให้เลือกมากขึ้นต่อการใช้งานผ่าตัดแต่ละชนิด จึงเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละกรณีมากขึ้น

    ปัจจุบัน พัฒนาการทางการแพทย์มีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะเพียงหุ่นยนต์ เช่น ยา อุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ และเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วย ทางโรงพยาบาลกรุงเทพพร้อมจะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ และดีที่สุดเท่าที่มี ณ เวลานั้น ๆ มาใช้งาน

    โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ มีศูนย์มะเร็งปอดและทรวงอก (Lung and Thoracic Cancer Center) และเพิ่งได้รับการรับรอง JCI (Joint Commission International) ดูแลโรคมะเร็งปอดโดยเฉพาะ นอกเหนือจากการรับรองโรคอื่น ๆ อีก 8 สาขาที่มีอยู่เดิม

    “รพ.มะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ จะมีความพร้อมในการรักษามะเร็งในที่เดียว เป็น One Stop Unit ทั้งการผ่าตัด มะเร็งวิทยา และฉายแสง เพื่อให้คนไข้มั่นใจว่า จะได้รับการรักษาตามมาตรฐาน โดยจะมี Process เร็วทุกขั้น และมีความคล่องตัว”

กรณีตัวอย่างจากผลสำเร็จของหุ่นยนต์ผู้ช่วย

    ผลการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ มีผู้ป่วยทั้งไทยและชาวต่างชาติ มีผู้ป่วยมะเร็งปอด ขั้นที่ 1 รายหนึ่งได้รับการผ่าตัดส่องกล้องธรรมดาที่ปอดซ้าย อีก 2-3 ปีต่อมา พบจุดที่ปอดขวา ได้รับการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ พบว่า การฟื้นตัวเร็วกว่าเดิม เพียง 2 วันก็กลับบ้านได้ จากการส่องกล้องธรรมดาต้องอยู่โรงพยาบาลประมาณ 1 สัปดาห์

    อีกกรณีหนึ่ง เป็นผู้ป่วยที่ไม่เคยผ่าตัดมาก่อน แต่ก่อนมาเข้ารับการรักษาได้หาข้อมูลมาแล้วก็เลือกมาผ่าตัดที่นี่ เพราะมีมาตรฐานทางการแพทย์ ค่าใช้จ่ายเทียบกับหลายประเทศในแถบเอเชีย จะต่ำกว่า 2-3 เท่าตัว ได้รับบริการที่ดีกว่าจากบุคลากรทางการแพทย์

    นอกจากนี้ การรักษามะเร็งปอดที่มีวิวัฒนาการมากขึ้น จากอดีตผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดจะมีโอกาสรอดน้อยมาก แต่ปัจจุบันโรงพยาบาลมีโปรแกรมคัดกรอง ทำให้พบมะเร็งปอดระยะที่ 1 ได้เร็วขึ้น ทำให้รักษาได้ทันท่วงที หรือแม้ไม่ได้คัดกรอง แต่พบระยะที่ 2 หรือ 3 ก็มีการรักษาที่ไม่ใช่แค่ใช้เคมีบำบัด แต่มีทางเลือกอื่น ๆ คือ การให้ยามุ่งเป้า ยาภูมิคุ้มกันบำบัด ที่ทำให้การลามของมะเร็งไปต่อมน้ำเหลือง ยุบลงได้ดี

    พัฒนาการของเทคโนโลยีทางการแพทย์ยังมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้อยู่ดี มีสุข ลดความทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วย ซึ่งเราจะได้เห็นความก้าวหน้ามากขึ้น ๆ ต่อไป

4 compress 71 scaled
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า